31 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “เวลานั้นจะมาถึง
เมื่อเราจะทำพันธสัญญาใหม่
กับพงศ์พันธุ์อิสราเอล
และกับพงศ์พันธุ์ยูดาห์
32 เป็นพันธสัญญาซึ่งไม่เหมือนพันธสัญญา
ที่เราได้ทำไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา
เมื่อเราจูงมือพวกเขา
นำออกมาจากดินแดนอียิปต์
เพราะพวกเขาละเมิดพันธสัญญาที่ทำไว้กับเรา
ทั้งๆ ที่เราเป็นเจ้านายของ[a]พวกเขา[b]
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
33 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “นี่คือพันธสัญญาที่เราจะทำกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล
หลังจากสมัยนั้น
คือเราจะใส่บทบัญญัติของเราในจิตใจของพวกเขา
จารึกบนหัวใจของพวกเขา
เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา
และพวกเขาจะเป็นประชากรของเรา
34 ผู้คนจะไม่สอนเพื่อนบ้าน
หรือสอนพี่น้องของตนอีกต่อไปว่า ‘จงรู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า’
เพราะพวกเขาทุกคนจะรู้จักเรา
ตั้งแต่ผู้น้อยที่สุดไปจนถึงผู้ใหญ่ที่สุด”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“เพราะเราจะอภัยความชั่วร้ายของเขา
และจะไม่จดจำบาปทั้งหลายของเขาอีกต่อไป”

Read full chapter

Footnotes

  1. 31:32 ฉบับ LXX. และ Syr. ว่าและเราได้หันไปจาก
  2. 31:32 ภาษาฮีบรูว่าสามีของพวกเขา

พันธสัญญาใหม่

31 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ดูเถิด จะถึงเวลาที่เราจะทำพันธสัญญาใหม่กับพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์ 32 ไม่เป็นเหมือนพันธสัญญาที่เราได้ทำกับบรรพบุรุษของเขาในวันที่เราจูงมือพวกเขาออกไปจากแผ่นดินอียิปต์[a] พันธสัญญาของเราที่พวกเขาไม่ปฏิบัติตาม แม้ว่าเราเป็นประหนึ่งสามีของพวกเขาก็ตาม” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 33 พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “แต่นี่เป็นพันธสัญญาที่เราจะทำกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล และหลังจากนั้น เราจะเขียนกฎของเราในความคิดของพวกเขา และเราจะจารึกไว้ในใจของพวกเขา และเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาจะเป็นชนชาติของเรา 34 และจะไม่มีวันที่แต่ละคนจะสอนเพื่อนบ้านและพี่น้องของตนอีกต่อไปว่า ‘จงรู้จักพระผู้เป็นเจ้า’ เพราะพวกเขาทุกคนจะรู้จักเรา นับจากคนด้อยสุดในพวกเขาจนถึงคนยิ่งใหญ่ที่สุด พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น ด้วยว่า เราจะยกโทษความชั่วของพวกเขา และเราจะไม่จดจำบาปของพวกเขาอีกต่อไป”[b]

Read full chapter