นิมิตของโอบาดีห์

(ยรม.49:9-10,14-16)

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสเกี่ยวกับเอโดมว่า

เราได้ยินถ้อยคำจากองค์พระผู้เป็นเจ้าดังนี้
มีทูตคนหนึ่งถูกส่งไปยังประชาชาติต่างๆ เพื่อแจ้งว่า
“ลุกขึ้นเถิด ให้เราไปรบกับเอโดม”

“ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าเล็กกระจ้อยร่อยในหมู่ประชาชาติ
เจ้าจะถูกเหยียดหยามยิ่งนัก
ความหยิ่งผยองในใจได้หลอกลวงเจ้า
เจ้าผู้อาศัยอยู่ในซอกหิน
และสร้างบ้านไว้บนที่สูง
เจ้าผู้บอกตัวเองว่า
‘ใครเล่าสามารถดึงเราลงไปอยู่ที่พื้นได้?’
ถึงแม้เจ้าเหินฟ้าเหมือนนกอินทรี
และสร้างรังไว้กลางหมู่ดาว
เราก็จะฉุดเจ้าลงมาจากที่นั่น”
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“หากขโมยมาหาเจ้า
หากโจรบุกมาในยามค่ำคืน
เจ้าจะย่อยยับสักปานใด
เขาจะไม่ขโมยไปเพียงเท่าที่เขาอยากได้หรือ?
หากคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า
เขาจะไม่เหลือไว้บ้างนิดหน่อยหรือ?
แต่เอซาวจะถูกปล้นชิงจนหมดสิ้น
ทรัพย์สมบัติที่เขาซ่อนไว้ถูกปล้นชิงไปหมด!
พันธมิตรทั้งหมดจะบังคับให้เจ้าออกไปจนสุดแดน
เพื่อนฝูงจะหลอกและเอาชนะเจ้า
เพื่อนร่วมสำรับอาหารเดียวกันกับเจ้าจะวางกับดักเจ้า[a]
แต่เจ้าจะไม่ระแคะระคาย”

องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ในวันนั้น
เราจะไม่ทำลายปราชญ์ของเอโดม
และผู้ที่มีความเข้าใจที่ภูเขาต่างๆ ของเอซาวหรือ?
เทมานเอ๋ย นักรบของเจ้าจะครั่นคร้าม
และทุกคนที่ภูเขาของเอซาว
จะถูกประหาร
10 เพราะความอำมหิตที่เจ้าทำแก่ยาโคบน้องชายของเจ้า
เจ้าจะอับอายขายหน้า
เจ้าจะถูกทำลายไปตลอดกาล
11 ในวันที่เจ้ายืนเฉยอย่างไม่แยแส
ขณะที่คนแปลกหน้าขนทรัพย์สมบัติของเขาไป
คนต่างชาติบุกเข้าประตูเมืองของเขา
และจับสลากแบ่งกรุงเยรูซาเล็มกัน
เจ้าก็เป็นเหมือนคนหนึ่งในพวกนั้น
12 เจ้าไม่ควรหยามน้ำหน้าน้องชาย
ในวันที่เขารับเคราะห์
หรือกระหยิ่มยิ้มย่องทับถมชาวยูดาห์
ในวันที่พวกเขาพินาศ
หรือคุยโวโอ้อวดเหลือเกิน
ในวันที่พวกเขาเดือดร้อน
13 เจ้าไม่ควรเดินเข้าประตูเมืองของประชากรของเรา
ในวันที่พวกเขาพินาศย่อยยับ
หรือสมน้ำหน้าที่พวกเขาป่นปี้
ในวันที่พวกเขาพินาศย่อยยับ
หรือยึดทรัพย์สมบัติของพวกเขา
ในวันที่พวกเขาพินาศย่อยยับ
14 เจ้าไม่ควรดักรออยู่ที่ทางแยก
เพื่อคอยเล่นงานพวกเขาซึ่งหนีภัยมา
หรือมอบตัวผู้รอดชีวิตของพวกเขา
ในวันที่เขาเดือดร้อน

15 “วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับมวลประชาชาติใกล้เข้ามาแล้ว
เจ้าทำสิ่งใดไว้จะได้รับสิ่งนั้นตอบแทน
กรรมที่เจ้าก่อไว้จะย้อนกลับมาตกบนหัวของเจ้า
16 เหมือนที่เจ้าดื่มบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา
ประชาชาติทั้งปวงก็จะดื่มไม่หยุด
เขาจะดื่มแล้วดื่มอีก
เขาจะเป็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
17 แต่บนภูเขาศิโยนจะมีการช่วยกู้
ภูเขานั้นจะศักดิ์สิทธิ์
และพงศ์พันธุ์ยาโคบ
จะครอบครองกรรมสิทธิ์ในดินแดนนั้น
18 พงศ์พันธุ์ยาโคบจะเป็นไฟ
พงศ์พันธุ์โยเซฟจะเป็นเปลวไฟ
พงศ์พันธุ์ของเอซาวจะเป็นตอข้าว
ซึ่งจะถูกไฟเผาจนมอดไหม้
พงศ์พันธุ์เอซาว
จะไม่มีใครรอดชีวิตเลย”
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้แล้ว

19 ประชาชนจากเนเกบจะครอบครอง
ภูเขาต่างๆ ของเอซาว
และประชาชนจากเชิงเขาต่างๆ จะครอบครอง
ดินแดนของชาวฟีลิสเตีย
พวกเขาจะครอบครองท้องทุ่งของเอฟราอิมกับสะมาเรีย
และเบนยามินจะครอบครองกิเลอาด
20 กลุ่มเชลยอิสราเอลซึ่งอยู่ในคานาอัน
จะครอบครองดินแดนไกลไปถึงศาเรฟัท
เชลยจากเยรูซาเล็มซึ่งอยู่ในเสฟาราด
จะครอบครองเมืองต่างๆ ของเนเกบ
21 พวกกู้ชาติจะขึ้นไปบน[b]ภูเขาศิโยน
เพื่อครอบครองภูเขาต่างๆ ของเอซาว
และอาณาจักรนั้นจะเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า

Footnotes

  1. 1:7 ในภาษาฮีบรูประโยคนี้มีความหมายไม่ชัดเจน
  2. 1:21 หรือจาก

ภาพนิมิตของโอบาดีห์

เอโดมจะต้องถ่อมตัวลง

พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวถึงเอโดม[a]ดังนี้

พวกเราได้รับข้อความจากพระผู้เป็นเจ้า
    และผู้ส่งข่าวผู้หนึ่งถูกส่งให้ไปยังบรรดาประชาชาติ เพื่อบอกดังนี้ว่า
“จงเตรียมพร้อม พวกเราจงพร้อมที่จะสู้รบกับเอโดม”
“ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าด้อยในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
    เจ้าจะถูกดูหมิ่นอย่างมาก
ใจหยิ่งยโสของเจ้าได้ลวงเจ้าแล้ว
    เจ้าอาศัยอยู่ในซอกหิน
    และทำที่อยู่อาศัยบนภูเขาสูง
เจ้าคิดในใจว่า
    ‘ใครจะทำให้เราลงมายังพื้นดินได้’
แม้ว่าเจ้าจะโผบินอย่างนกอินทรี
    แม้รังของเจ้าจะถูกวางในหมู่ดาว
    เราก็จะทำให้เจ้าลงมาจากที่นั่น”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

“ถ้าพวกขโมยมาหาเจ้า
    ถ้านักปล้นมาในเวลากลางคืน
โอ ความทุกข์ร้อนรอเจ้าอยู่เพียงไร
    พวกเขาจะขโมยทุกสิ่งที่ต้องการ
ถ้าพวกคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า
    พวกเขาจะเหลือให้คนยากไร้เก็บบ้างมิใช่หรือ
เอซาวถูกปล้นจนหมดสิ้น
    สมบัติของเขาที่ซ่อนไว้ก็ถูกค้นหาทุกซอกทุกมุม
มิตรสหายของเจ้าทุกคนได้ขับไล่เจ้าไปถึงชายแดนของเจ้า
    บรรดาผู้ที่เป็นมิตรกับเจ้าได้ลวงเจ้า และข่มเจ้า
บรรดาผู้รับประทานอาหารของเจ้าได้วางกับดักจับเจ้า
    แต่เจ้าจะไม่ทราบเลย”

พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า

“ในวันนั้น เราจะไม่กำจัดผู้เรืองปัญญาให้สิ้นไปจากเอโดมหรือ
    และกำจัดผู้มีความเข้าใจให้สิ้นไปจากภูเขาเอซาวหรือ
โอ เทมานเอ๋ย บรรดานักรบของเจ้าจะตื่นตระหนก
    และทุกคนที่ภูเขาเอซาวจะถูกตัดขาดด้วยการถูกสังหาร

เอโดมรุนแรงต่อยาโคบ

10 เพราะความรุนแรงที่เจ้ากระทำต่อยาโคบน้องชายของเจ้า
    เจ้าจะต้องอับอายมาก
    และเจ้าจะถูกตัดขาดไปตลอดกาล
11 ในวันที่เจ้ายืนอยู่ห่างๆ
    ในวันที่บรรดาคนแปลกหน้าขนสมบัติของเขาไป
และบรรดาชาวต่างชาติเข้าไปในประตูเมืองของเขา
    และจับฉลากเพื่อชิงเยรูซาเล็ม[b]
    เจ้าเป็นเหมือนคนหนึ่งในบรรดาพวกเขา
12 แต่เจ้าอย่าสะใจกับน้องชายของเจ้า
    ในวันที่เขาประสบกับเรื่องร้ายๆ
อย่ายินดีในเวลาที่ชาวยูดาห์ลำบาก
    อย่าโอ้อวดในวันแห่งความทุกข์
13 อย่าเข้าประตูเมืองของชนชาติของเรา
    ในวันแห่งความวิบัติของพวกเขา
อย่าสะใจเมื่อพวกเขามีความทุกข์ร้อน
    ในวันแห่งความวิบัติของพวกเขา
อย่ายึดทรัพย์สมบัติของพวกเขา
    ในวันแห่งความวิบัติของพวกเขา
14 อย่ายืนที่ทางแยก
    และกำจัดบรรดาผู้ลี้ภัย
อย่าจับบรรดาผู้รอดชีวิตส่งให้แก่ศัตรู
    ในยามที่พวกเขาเดือดร้อน

วันของพระผู้เป็นเจ้าใกล้จะถึงแล้ว

15 ด้วยว่า วันของพระผู้เป็นเจ้าใกล้จะถึงแล้ว
    สำหรับประชาชาติทั้งปวง
เจ้าได้กระทำอย่างไร เจ้าก็จะถูกกระทำตอบอย่างนั้น
    การกระทำของเจ้าจะกลับมาสนองตัวเจ้าเอง
16 เจ้าได้ดื่มบนภูเขาอันบริสุทธิ์ของเราอย่างไร
    ประชาชาติทั้งปวงก็จะดื่มต่อไปอย่างนั้น
พวกเขาจะดื่มและกลืนลงไป
    และจะเป็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
17 แต่ที่ภูเขาศิโยนจะมีบรรดาผู้ที่หนีรอด
    และจะเป็นที่บริสุทธิ์
และพงศ์พันธุ์ยาโคบจะเป็นเจ้าของมรดกของพวกเขา
18 พงศ์พันธุ์ยาโคบจะเป็นประดุจไฟ
    และพงศ์พันธุ์โยเซฟจะเป็นเปลวไฟ
    พงศ์พันธุ์เอซาวจะเป็นกองฟาง
ไฟและเปลวไฟจะเผาและทำให้เอซาวมอดไหม้
    และจะไม่มีผู้ใดในพงศ์พันธุ์เอซาวรอดชีวิตมาได้”
เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวดังนั้น

อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

19 ประชาชนจากเนเกบจะยึดภูเขาเอซาว
    และประชาชนจากที่ลุ่มจะยึดแผ่นดินของชาวฟีลิสเตีย
พวกเขาจะยึดครองแผ่นดินของเอฟราอิมและแผ่นดินของสะมาเรีย
    และเบนยามินจะยึดกิเลอาด
20 บรรดาเชลยชาวอิสราเอลซึ่งอยู่ในคานาอัน
    จะยึดแผ่นดินจนถึงศาเรฟัท
และบรรดาเชลยของเยรูซาเล็มซึ่งอยู่ในเสฟาราด
    จะยึดเมืองต่างๆ ในเนเกบ
21 บรรดาผู้ช่วยให้พ้นภัยจะขึ้นไปยังภูเขาศิโยน
    และปกครองภูเขาเอซาว
    และอาณาจักรจะเป็นของพระผู้เป็นเจ้า