Add parallel Print Page Options

27 โยบเริ่มพูดต่ออีกว่า

2-4 “ถึงแม้ว่าพระองค์เอาความยุติธรรมไปจากข้า
ถึงแม้ว่าพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ทำให้ชีวิตข้าขมขื่น
ข้าขอสาบานว่า พระองค์มีชีวิตอยู่แน่ฉันใด
    ข้าจะไม่ปล่อยให้ริมฝีปากของข้าพูดโกหก
    ลิ้นของข้าจะไม่พูดคำหลอกลวง
    ตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่
    ตราบเท่าที่ลมหายใจจากพระเจ้ายังอยู่ในรูจมูกข้า
ไม่มีวันที่ข้าจะพูดว่าพวกท่านถูก
    ข้าจะไม่มีวันพูดโกหกว่าข้าผิดหรอกตราบเท่าวันตาย
ข้าจะยืนหยัดในความบริสุทธิ์ของข้าและจะไม่ยอมปล่อยมัน
    จิตใจของข้าไม่ได้ฟ้องข้าสำหรับสิ่งทั้งหลายที่ข้าทำในชีวิต
ขอให้ศัตรูของข้าถูกลงโทษเหมือนคนชั่วร้าย
    ขอให้ผู้ที่ต่อต้านข้าถูกลงโทษเหมือนคนทำชั่ว
ผู้ที่ไม่นับถือพระเจ้าจะมีความหวังอะไรเมื่อพระเจ้าตัดเขาออกไป
    เมื่อพระเจ้าเอาชีวิตของเขาไป
เมื่อความยากลำบากมาสู่เขา
    พระเจ้าจะฟังเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขาหรือ
10 เขาจะชื่นชมยินดีในพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์หรือ
    เขาจะร้องเรียกหาพระองค์ตลอดเวลาหรือ
11 ข้าจะสอนพวกท่านถึงเรื่องพลังอำนาจของพระเจ้า
    ข้าจะไม่ปิดบังความจริงเกี่ยวกับพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์
12 อันที่จริง พวกท่านก็ได้เห็นเองแล้ว
    ทำไมพวกท่านยังพูดเรื่องไร้สาระอยู่อีก

13 นี่คือส่วนแบ่งที่คนชั่วได้รับจากพระเจ้า
    นี่คือมรดกที่คนกดขี่ข่มเหงได้รับจากพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์
14 ถึงเขามีลูกเพิ่มทวีขึ้นมากมาย ดาบก็จะมาฆ่าพวกเขา
    ส่วนลูกหลานของพวกเขาก็จะไม่มีอาหารพอกิน
15 คนของเขาที่ยังเหลือรอดชีวิตก็จะถูกฝังเพราะโรคระบาด
    และเมียหม้ายของพวกเขาก็จะไม่ไว้ทุกข์
16 ถึงคนชั่วกองเงินมากมายเหมือนฝุ่น
    และกองเสื้อผ้าราวกับดินเหนียว
17 เขาอาจจะเป็นคนกองมันขึ้นมาก็จริง แต่จะเป็นคนที่ซื่อตรงที่ได้ใส่มัน
    และคนบริสุทธิ์จะแบ่งปันเงินนั้น
18 พวกบ้านที่คนชั่วสร้างจะเปราะบางเหมือนรังนก
    เปราะบางเหมือนเพิงของยามเฝ้าสวนองุ่น
19 ในคืนหนึ่ง เขาอาจล้มตัวลงนอนอย่างคนมั่งคั่ง แต่คืนต่อไปอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น
    พอเขาลืมตาขึ้น ความมั่งคั่งนั้นได้สูญหายไปหมดแล้ว
20 เรื่องสยดสยองต่างๆท่วมท้นเขาราวกับน้ำท่วม
    ในตอนกลางคืนลมพายุก็หอบเขาไป
21 ลมตะวันออกยกเขาขึ้น แล้วเขาก็จากไป
    มันกวาดเขาไปจากที่ของเขา
22 พายุพัดกระแทกใส่เขาอย่างไม่ปรานี
    พวกเขาพยายามวิ่งหนีฤทธิ์ของพายุนั้น
23 ลมตบมือเยาะเย้ยพวกเขา
    และผิวปากใส่เขาจากที่อยู่ของมัน”

โยบพูดต่อไป: ฉันไม่มีความผิด

27 และโยบพูดต่อไปอีกว่า

“ตราบที่พระเจ้ามีชีวิตอยู่ฉันใด พระองค์เป็นผู้ยึดสิทธิของฉันไป
    องค์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพ ผู้ทำให้จิตวิญญาณของฉันขมขื่น
ตราบที่ฉันมีลมหายใจ
    และตราบที่พระเจ้าโปรดให้ลมหายใจอยู่ในจมูกของฉัน
ริมฝีปากของฉันจะไม่พูดเท็จ
    และลิ้นของฉันจะไม่กล่าวคำหลอกลวง
ฉันจะไม่มีวันพูดว่า พวกท่านเป็นฝ่ายถูก
    ฉันจะไม่ทิ้งความซื่อตรงของฉันจนวันตาย
ฉันจะยังคงความชอบธรรมของฉันโดยไม่แปรเปลี่ยน
    มโนธรรมของฉันไม่มีวันที่จะตำหนิตัวเอง

ขอให้ศัตรูของฉันรับโทษเช่นเดียวกับคนชั่ว
    และขอให้คนที่ต่อต้านฉันรับโทษเช่นเดียวกับคนไม่มีความชอบธรรม
คนไม่เชื่อในพระเจ้ามีความหวังอะไร เมื่อพระเจ้าทำให้เขาจบชีวิตลง
    เมื่อพระเจ้าพรากชีวิตไปจากเขา
พระเจ้าจะได้ยินเสียงร้องของเขา
    เมื่อเขามีความทุกข์หรือ
10 เขาจะมีความสุขใจในองค์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพหรือ
    เขาจะร้องเรียกถึงพระเจ้าตลอดเวลาหรือ
11 ฉันจะสอนท่านเรื่องอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
    ฉันจะชี้ให้ท่านเห็นว่าองค์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพประสงค์อะไร
12 ดูเถิด ท่านทุกคนได้เห็นด้วยตัวท่านเองแล้ว
    แล้วทำไมพวกท่านจึงพูดอย่างไร้สาระเช่นนี้

13 นี่แหละเป็นส่วนที่คนชั่วได้รับจากพระเจ้า
    เป็นมรดกที่ผู้บีบบังคับรับจากองค์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพ
14 แม้ลูกหลานของเขาทวีขึ้น แต่ก็จะถูกฆ่าด้วยคมดาบ
    และบรรดาผู้สืบเชื้อสายจะมีไม่พอกิน
15 พวกที่รอดมาได้ก็จะตายด้วยโรคระบาด
    และเมียเป็นม่ายของพวกเขาก็ไม่ร้องไห้
16 แม้ว่าเขาจะสะสมเงินได้มากเท่าฝุ่น
    และเก็บเสื้อผ้าไว้เป็นกองดั่งดินเหนียว
17 เขาจะกองมันไว้ แต่คนที่สวมใส่ก็คือผู้มีความชอบธรรม
    และคนไร้ความผิดจะเป็นผู้ที่แบ่งกองเงิน
18 เขาสร้างบ้านที่ไม่ต่างไปจากเปลือกหุ้มตัวดักแด้
    เหมือนกระท่อมที่คนเฝ้ายามสร้างขึ้นเอง
19 เขาร่ำรวยในยามเข้านอน แต่จะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป
    พอเขาเปิดตาขึ้นมา ความมั่งมีของเขาก็สูญไป
20 ความน่ากลัวเกิดขึ้นกับเขาดั่งน้ำไหลหลาก
    ในยามค่ำพายุหมุนก็พัดพาเขาไป
21 ลมทะเลทรายหอบตัวของเขาขึ้นและเขาก็จากไป
    มันกวาดเขาไปจากที่ของเขา
22 พายุนั้นเหวี่ยงเขาอย่างไม่ปรานี
    เขาพยายามจะหนีไปอย่างรวดเร็วจากกำลังของมัน
23 พายุพัดกรรโชกเขา
    และส่งเสียงเหน็บแนมปะทะตัวเขาไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใด