Add parallel Print Page Options

ผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมจะถูกลงโทษ

13 ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดแทนเราต่อต้านพวกผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมพวกนั้น ที่อ้างว่าพูดแทนเราอยู่ในอิสราเอล ให้พูดต่อต้านคนพวกนั้นที่แกล้งทำเป็นพูดแทนเรา แต่ที่แท้ก็พูดตามจินตนาการของพวกมันเอง บอกกับพวกมันว่า ‘ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า น่าอับอายจริงๆพวกโง่เง่าที่อ้างว่าพูดแทนเรา แต่ที่แท้ก็แค่พูดตามจินตนาการของตัวเอง ไม่ได้เห็นนิมิตจากพระเจ้าจริง

ชาวอิสราเอลเอ๋ย คนเหล่านั้นที่อยู่ท่ามกลางพวกเจ้า ที่อ้างว่าพูดแทนเรา เป็นเหมือนหมาไน[a] ท่ามกลางซากปรักหักพัง พวกเจ้าไม่ได้ปีนขึ้นไปเพื่อปกป้องเมืองตรงช่องโหว่ของกำแพง[b] และไม่ได้ซ่อมกำแพงให้กับครอบครัวของอิสราเอล เพื่อจะยืนหยัดต่อต้านสงครามไว้ได้ในวันที่พระยาห์เวห์แสดงความโกรธออกมา

นิมิตของพวกมันเป็นของปลอม และคำทำนายของพวกมันเป็นเรื่องโกหก พวกมันอ้างว่า สิ่งที่พวกมันพูดนั้นเป็นคำพูดของพระยาห์เวห์ พวกมันคาดหวังว่าพระองค์จะทำให้คำทำนายของพวกมันเกิดขึ้นจริง ทั้งๆที่พระองค์ไม่เคยส่งพวกมันมาเลย พวกเจ้าทั้งหลายที่อ้างว่าพูดแทนเรา พวกเจ้าเห็นนิมิตจอมปลอม และทำนายเท็จ ไม่ใช่หรือ ตอนที่อ้างว่า “พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้” ทั้งๆที่เราไม่ได้พูดกับพวกเจ้าเลย’”

ดังนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เราต่อต้านพวกเจ้า เพราะพวกเจ้าพูดโกหกและอ้างว่าเห็นนิมิต” นั่นแหละคือคำพูดของพระยาห์เวห์

พระยาห์เวห์พูดว่า “มือของเราจะต่อต้านพวกเจ้าที่แอบอ้างว่าพูดแทนเรา ที่บอกว่าเห็นนิมิต และพวกหมอดูที่กุเรื่องโกหกขึ้นมา คนพวกนี้จะถูกแยกออกจากสภาที่ประชุมของเรา ชื่อของพวกมันจะไม่ได้รับการบันทึกไว้ในสมุดของครอบครัวอิสราเอล และพวกมันจะไม่ได้กลับมายังแผ่นดินอิสราเอล แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือ ยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต

10 สิ่งนี้จะเกิดขึ้น เพราะพวกมันทำให้คนของเราหลงผิด พวกมันพูดว่า ‘ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี’ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเป็นไปด้วยดีเลย มันเหมือนกับประชาชนสร้างกำแพงแบบชุ่ยๆแล้วพวกที่อ้างว่าพูดแทนพระเจ้าพวกนี้ เอาปูนขาวมาฉาบให้ดูดี 11 ให้บอกกับคนฉาบปูนพวกนี้ว่า งานของพวกเขาจะต้องพังทลายลง เพราะเราจะส่งพายุฝน และลูกเห็บซัดกระหน่ำลงมา พร้อมกับลมพายุอย่างหนักที่จะพัดกำแพงให้พังลง 12 เมื่อกำแพงถล่มลงมา ผู้คนจะถามพวกมันว่า ‘ทำไมปูนขาวที่ท่านฉาบไว้ไม่ช่วยอะไรเลยล่ะ’” 13 ดังนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เราจะใช้ลมพายุที่รุนแรงนี้ ทำให้กำแพงแตกด้วยความเดือดดาลของเรา เราจะเทฝนกระหน่ำลงมาทำให้กำแพงสึกกร่อนด้วยความโกรธของเรา เราจะส่งลูกเห็บลงมาจัดการมันให้ราบเรียบด้วยความเดือดดาลของเรา

14 ดังนั้นเราจะทำลายกำแพงที่เจ้าได้ฉาบปูนขาวไว้นั้น เราจะทำลายมันให้ราบเป็นหน้ากลอง จนมองเห็นฐานรากของมัน และเมื่อมันล้มลง เจ้าจะถูกทำลายภายในกำแพงนั้น และเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์

15 ด้วยวิธีนั้น เราจะได้ระบายความโกรธของเราออกมาลงบนกำแพงและลงบนคนเหล่านั้นที่ฉาบปูนขาวทับมัน เราจะบอกกับเจ้าว่า ‘กำแพงไม่มีแล้ว และพวกคนฉาบปูนขาวนั้นหายไปแล้ว’

16 สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นกับคนพวกนี้ของอิสราเอลที่แอบอ้างว่าพูดแทนเรา ที่ทำนายให้กับเมืองเยรูซาเล็ม และเห็นนิมิตว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเป็นไปด้วยดีเลย” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนี้แหละ

17 และตอนนี้ “เจ้าลูกมนุษย์ ให้หันไปดูผู้หญิงพวกนั้นที่อยู่ท่ามกลางคนของเจ้า พวกนางได้ทำนายตามจินตนาการของตัวเอง ให้เจ้าพูดแทนเราต่อต้านพวกนางว่า 18 ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า น่าอับอายจริงๆพวกเจ้า หญิงที่เย็บผ้าไสยศาสตร์ไว้พันข้อมือให้กับทุกๆคน น่าอับอายจริงๆพวกเจ้า หญิงที่ทำผ้าไสยศาสตร์ไว้คลุมหน้าหลายๆขนาด เพื่อล่าชีวิตคน เจ้าคิดว่าเจ้าจะล่าชีวิตคนของเรา แล้วตัวเจ้าเองจะรอดชีวิตไปได้หรือ 19 เจ้าทำให้คนของเราดูถูกเหยียดหยามเรา เพราะเจ้าพูดโกหกเป่าหูคนของเราที่ชอบฟังคำโกหกอยู่แล้ว เจ้าทำสิ่งนี้เพื่อแลกกับข้าวบาร์เลย์สองสามกำมือและขนมปังไม่กี่ชิ้นเท่านั้น เจ้าทำให้คนที่ไม่สมควรตาย ต้องมาตาย และทำให้คนที่สมควรตาย ยังมีชีวิตอยู่ 20 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดกับพวกเจ้า “ดูนะ เราต่อต้านผ้าไสยศาสตร์ที่พันข้อมือของพวกเจ้า ที่พวกเจ้าใช้ล่าชีวิตคนเหมือนกับล่านก เราจะฉีกมันจากแขนของพวกเจ้า และปล่อยให้คนเหล่านั้นเป็นอิสระ คือคนเหล่านั้นที่เจ้าได้ล่าเหมือนล่านก 21 เราจะฉีกผ้าคลุมหน้าของพวกเจ้าออก และช่วยชีวิตคนของเราจากอำนาจของเจ้า พวกเขาจะไม่ตกเป็นเหยื่อของเจ้าอีกต่อไป แล้วเจ้าจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”

22 เจ้าได้หลอกลวงคนดีๆให้หมดกำลังใจ แต่เราไม่อยากให้พวกเขาหมดกำลังใจ แถมเจ้ายังไปให้กำลังใจกับคนชั่วไม่ให้พวกเขากลับใจ ถ้าเขากลับใจก็จะมีชีวิตต่อไป

23 ดังนั้นพวกเจ้าจะไม่ได้อ้างว่าเห็นนิมิตอีกต่อไป และจะไม่ได้กุเรื่องเวทมนตร์ของเจ้าขึ้นมาอีก เราจะช่วยกู้คนของเราจากอำนาจของเจ้า แล้วเจ้าจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์’”

Footnotes

  1. 13:4 หมาไน สัตว์พวกนี้ชอบอยู่ตามที่ปรักหักพัง ดังนั้นมันคงไม่เสียดายถ้าเมืองเยรูซาเล็มจะถูกทำลาย
  2. 13:5 ช่องโหว่ของกำแพง ผู้พูดแทนพระเจ้า จะเตือนคนให้กลับใจเสียใหม่ และจะอธิษฐานต่อพระเจ้าให้กับประชาชน เพื่อปกป้องพวกเขาจากความเดือดดาลหรือความโกรธเกรี้ยวของพระเจ้าเหมือนกับที่ทหารยามจะปกป้องเมือง ด้วยการขึ้นไปต่อสู้ตรงช่องโหว่ของกำแพงตอนที่เมืองถูกโจมตี ดูเพิ่มเติมได้จาก หนังสือสดุดี 106:23

ผู้เผยคำกล่าวจอมปลอมถูกกล่าวโทษ

13 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงเผยความกล่าวโทษบรรดาผู้เผยคำกล่าวของอิสราเอล พวกเขากำลังเผยความ และเจ้าจงบอกบรรดาผู้ที่เผยความจากความนึกคิดของพวกเขาเอง จงบอกพวกเขาว่า จงฟังคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวว่า วิบัติจงเกิดแก่บรรดาผู้เผยคำกล่าว ซึ่งกระทำตามจิตวิญญาณของตนเอง และยังไม่ได้เห็นอะไรเลย โอ อิสราเอลเอ๋ย บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพวกเจ้าเป็นเหมือนพวกหมาในที่อยู่ท่ามกลางสถานที่ร้าง เจ้าไม่ได้ขึ้นไปที่ช่องกำแพงแตก หรือซ่อมแซมกำแพงให้พงศ์พันธุ์อิสราเอล เพื่อจะได้ยืนหยัดในการสู้รบในวันของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาเห็นภาพนิมิตเท็จ และการทำนายที่ไม่จริง พวกเขาพูดว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าประกาศ’ เมื่อพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ส่งพวกเขาไป และพวกเขายังหวังว่าพระองค์จะทำให้สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นเกิดขึ้น พวกเจ้าไม่เคยเห็นภาพนิมิตเท็จและการทำนายที่ไม่จริงหรือ เมื่อใดที่เจ้าพูดว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าประกาศ’ แม้ว่าเราจะไม่ได้กล่าวก็ตาม”

ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ “เพราะพวกเจ้าได้ทำนายสิ่งที่เท็จ และได้เห็นภาพนิมิตที่ไม่จริง ฉะนั้นดูเถิด เราจะขัดขวางพวกเจ้า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศ มือของเราจะกล่าวโทษบรรดาผู้เผยความที่เห็นภาพนิมิตเท็จและการทำนายที่ไม่จริง พวกเขาจะไม่อยู่ในที่ประชุมของชนชาติของเรา หรืออยู่ในรายชื่อบันทึกของพงศ์พันธุ์อิสราเอล หรือจะเข้าไปในแผ่นดินของอิสราเอล และพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ 10 เพราะพวกเขาได้ชักนำชนชาติของเราให้หลงผิดโดยพูดว่า ‘สันติสุข’ ทั้งๆ ที่ไม่มีสันติสุข และเมื่อประชาชนสร้างกำแพง ผู้เผยคำกล่าวเหล่านั้นก็ฉาบมันด้วยปูนขาว 11 จงบอกบรรดาคนเหล่านั้นที่ฉาบกำแพงด้วยปูนขาวว่า มันจะพังทลาย ฝนจะหลั่งเป็นกระแสน้ำ และเราจะให้พายุลูกเห็บกระหน่ำลง และลมพายุแรงจะพัด 12 และเมื่อกำแพงพังทลาย ประชาชนจะไม่ถามพวกเจ้าหรือว่า ‘ปูนขาวที่พวกท่านฉาบไว้น่ะอยู่ไหนล่ะ’ 13 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า เราจะทำให้ลมพายุแรงพัดมากับการลงโทษของเรา และจะมีฝนหลั่งเป็นกระแสน้ำมากับความโกรธของเรา และพายุลูกเห็บกับการลงโทษเป็นการยุติอย่างเต็มเปี่ยม 14 และเราจะพังกำแพงที่พวกเจ้าฉาบด้วยปูนขาว ทำให้มันพังทลายลงพื้น จนฐานกำแพงไม่มีซากเหลืออยู่เลย เวลามันพังลง พวกเจ้าจะตายอยู่ท่ามกลางกำแพงนั้น และพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า 15 เราจะใช้การลงโทษกระหน่ำอย่างนั้นต่อกำแพงและบรรดาผู้ที่ฉาบกำแพงด้วยปูนขาว และเราจะบอกพวกเจ้าว่า ทั้งกำแพงและคนเหล่านั้นที่ฉาบกำแพงไม่มีอีกต่อไปแล้ว 16 บรรดาผู้เผยคำกล่าวของอิสราเอลที่เผยความเกี่ยวกับเยรูซาเล็ม และเห็นภาพนิมิตแห่งสันติสุขสำหรับเยรูซาเล็ม ทั้งๆ ที่ไม่มีสันติสุข” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น

17 “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงขัดขวางบรรดาบุตรหญิงของประชาชนของเจ้า พวกเขาเผยความจากความนึกคิดของพวกเขาเอง จงเผยความกล่าวโทษพวกเขา 18 และบอกว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ‘วิบัติจงเกิดแก่บรรดาหญิงที่ทำเครื่องรางสวมที่ข้อมือของพวกเขาทุกคน และทำผ้าคลุมศีรษะที่มีความยาวต่างๆ กันเป็นการล่าชีวิตคน เจ้าจะล่าชีวิตที่เป็นของชนชาติของเรา แล้วรักษาชีวิตของตนไว้ได้หรือ 19 พวกเจ้าดูหมิ่นเราท่ามกลางชนชาติของเราเพื่อข้าวบาร์เลย์สองสามกำมือ และเพื่อขนมปังเพียงไม่กี่ชิ้น สังหารคนที่ไม่สมควรตาย และไว้ชีวิตพวกที่ไม่สมควรจะอยู่ ด้วยการพูดเท็จกับชนชาติของเราซึ่งฟังความเท็จ’”

20 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “เราไม่ยอมรับเครื่องรางของเจ้าซึ่งเจ้าใช้ล่าชีวิตคนอย่างล่านก และเราจะทำให้เครื่องรางขาดออกจากแขนของเจ้า และเราจะปล่อยชีวิตที่เจ้าล่าอย่างล่านกให้เป็นอิสระ 21 เราจะทำให้ผ้าคลุมศีรษะของเจ้าขาด และเราจะช่วยชนชาติของเราให้หลุดจากมือของเจ้า พวกเขาจะไม่อยู่ในมือของเจ้าดั่งเหยื่ออีกต่อไป และพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า 22 เพราะเจ้าพูดเท็จจึงได้ทำให้ผู้มีความชอบธรรมท้อใจ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้นำความเศร้าใจมาให้เขา นอกจากนั้น เจ้ายังได้สนับสนุนคนชั่วไม่ให้หันจากวิถีแห่งความชั่วเพื่อเขาจะรักษาชีวิตของตนไว้ 23 ฉะนั้น เจ้าจะไม่เห็นภาพนิมิตเท็จหรือการทำนายอีก เราจะให้ชนชาติของเรารอดจากมือของเจ้า และเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า

คำพิพากษาผู้เผยพระวจนะเท็จ

13 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าความว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงเผยพระวจนะกล่าวโทษบรรดาผู้เผยพระวจนะของอิสราเอลซึ่งกำลังพยากรณ์อยู่ตอนนี้ จงกล่าวแก่ผู้ที่พยากรณ์ตามความคิดฝันของตนว่า ‘จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า! พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า วิบัติแก่ผู้เผยพระวจนะที่โฉดเขลา[a] ซึ่งทำตามอำเภอใจของตนเอง และไม่ได้เห็นนิมิตอะไร! อิสราเอลเอ๋ย ผู้เผยพระวจนะของเจ้าเหมือนหมาในที่อยู่ท่ามกลางกองปรักหักพัง พวกเจ้าไม่ได้ปีนขึ้นไปซ่อมรอยแยกในกำแพงให้แก่พงศ์พันธุ์อิสราเอลเพื่อมันจะได้มั่นคงแน่นหนาพร้อมสำหรับการรบในวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า นิมิตของพวกเขาจอมปลอมและคำทำนายของพวกเขาก็เป็นคำโกหก เขาพูดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า” ทั้งๆ ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ใช้เขาเลย ถึงกระนั้นเขาก็ยังคาดหวังว่าจะเป็นไปตามถ้อยคำของตน เจ้าไม่ได้เห็นนิมิตจอมปลอมและกล่าวคำทำนายโกหกพกลมหรือ? เมื่อเจ้าพูดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า” ทั้งๆ ที่เราไม่ได้พูด

“ ‘ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราจะจัดการกับเจ้าเนื่องด้วยคำโป้ปดและนิมิตจอมปลอมของเจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น มือของเราจะต่อสู้กับบรรดาผู้เผยพระวจนะที่เห็นนิมิตจอมปลอมและกล่าวคำทำนายโกหก พวกเขาจะไม่ได้เข้าร่วมสภาประชาชนของเราหรือขึ้นทะเบียนสำมะโนพงศ์พันธุ์อิสราเอล ทั้งจะไม่ได้เข้าสู่ดินแดนอิสราเอล แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต

10 “ ‘ทั้งนี้เพราะพวกเขาชักจูงประชากรของเราให้หลงเตลิดไปโดยกล่าวว่า “สันติสุข” ทั้งๆ ที่ไม่มีสันติสุข และเพราะพวกเขาฉาบปูนขาวทับกำแพงอันเปราะบางที่ถูกสร้างขึ้น 11 ฉะนั้นจงบอกผู้ฉาบปูนขาวเหล่านั้นว่า กำแพงนั้นกำลังจะทลายลง ฝนจะตกลงมาห่าใหญ่ และเราจะส่งลูกเห็บซัดกระหน่ำ และพายุกล้าพัดโหม 12 เมื่อกำแพงพังครืนลง ประชากรจะไม่ถามเจ้าหรือว่า “ไหนล่ะปูนขาวที่ท่านฉาบทับ?”

13 “ ‘ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจึงตรัสดังนี้ว่า เราจะปล่อยพายุใหญ่ด้วยความโกรธของเรา ลูกเห็บและห่าฝนจะกระหน่ำลงมาอย่างหนักด้วยโทสะของเรา 14 เราจะทลายกำแพงซึ่งเจ้าฉาบปูนขาวทับไว้ และมันจะพังราบลงกับพื้นจนมองเห็นฐานรากของมัน เมื่อมัน[b]ทลายลง เจ้าจะพินาศอยู่ในนั้น แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ 15 ดังนั้นเราจะระบายความโกรธแก่กำแพง และแก่พวกที่ฉาบมันไว้ด้วยปูนขาว เราจะกล่าวแก่เจ้าว่า “กำแพงพังพินาศไปแล้ว และพวกที่ฉาบปูนขาวก็เช่นกัน 16 คือบรรดาผู้เผยพระวจนะของอิสราเอลซึ่งพยากรณ์แก่เยรูซาเล็มและเห็นนิมิตแห่งสันติสุขในเยรูซาเล็ม ทั้งๆ ที่ไม่มีสันติสุขเลย พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น” ’

17 “บัดนี้บุตรมนุษย์เอ๋ย จงตั้งตนเป็นศัตรูกับบรรดาบุตรสาวของชนชาติของเจ้า ผู้ซึ่งพยากรณ์ตามจินตนาการของตน จงเผยพระวจนะต่อต้านพวกเขา 18 และกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า วิบัติแก่หญิงที่เย็บเครื่องรางของขลังไว้รัดข้อมือ และทำผ้าคลุมหน้าขนาดต่างๆ เพื่อดักล่อประชาชน เจ้าจะลวงชีวิตประชากรของเราไปติดกับ แต่สงวนชีวิตของตนเองไว้หรือ? 19 เจ้าลบหลู่ดูหมิ่นเราในหมู่ประชากรเพราะเห็นแก่ข้าวบาร์เลย์เพียงสองสามกำมือกับเศษขนมปัง เจ้าได้ฆ่าเหล่าประชากรของเราที่ไม่สมควรตายและไว้ชีวิตคนที่ไม่สมควรอยู่โดยการโกหกประชากรเหล่านั้นซึ่งเป็นผู้ที่ฟังคำเท็จ

20 “ ‘ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราต่อสู้กับเครื่องรางของขลังต่างๆ ที่เจ้าใช้ดักล่อประชากรไว้เหมือนดักนก เราจะฉีกเครื่องรางของขลังออกจากแขนของเจ้า เราจะปลดปล่อยประชากรซึ่งเจ้าดักไว้เหมือนดักนก 21 เราจะฉีกผ้าคลุมหน้าของเจ้าออก และช่วยประชากรของเราให้พ้นจากเงื้อมมือของเจ้า เขาจะไม่ตกเป็นเหยื่ออยู่ในอำนาจของเจ้าอีกต่อไป แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ 22 ทั้งนี้เพราะคำโกหกของเจ้าบั่นทอนกำลังใจของผู้ชอบธรรมทั้งๆ ที่เราไม่ได้นำความเศร้าโศกมาให้เขา และเพราะเจ้าสนับสนุนคนชั่วให้คงอยู่ในทางอันชั่วร้ายของเขาเพื่อเป็นการรักษาชีวิตของพวกเขาไว้ 23 ฉะนั้นเจ้าจะไม่ได้เห็นนิมิตจอมปลอมหรือทำนายได้อีก เราจะช่วยประชากรของเราให้พ้นจากเงื้อมมือของเจ้า แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’ ”

Footnotes

  1. 13:3 หรือชั่วร้าย
  2. 13:14 หรือนครนั้น