Add parallel Print Page Options

นิมิตที่สาม: เอาเชือกวัดเยรูซาเล็ม

ผมเงยหน้าขึ้นมองเห็นชายคนหนึ่งถือสายวัดอยู่ในมือ ผมถามเขาว่า “จะไปไหนหรือครับ”

เขาตอบผมว่า “เรากำลังจะไปวัดเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อดูว่ามันมีขนาดกว้างยาวเท่าไหร่”

แล้วทูตสวรรค์ที่พูดอยู่กับผมก็เดินออกไปต้อนรับทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาหาเขา ทูตสวรรค์องค์แรกบอกกับทูตสวรรค์องค์ที่สองว่า “ให้วิ่งไปบอกกับชายหนุ่มคนนั้นที่ถือสายวัดว่า

‘เยรูซาเล็มจะเป็นเหมือนกับหมู่บ้านต่างๆในชนบทที่ไม่มีกำแพง
    เพราะเยรูซาเล็มจะมีคนกับสัตว์อาศัยอยู่อย่างล้นเหลือ’
พระยาห์เวห์พูดว่า
‘แต่เราจะเป็นกำแพงเพลิงที่ล้อมรอบปกป้องเมืองนั้นไว้
    และเราก็จะเป็นสง่าราศีให้กับเมืองนั้น’”

พระเจ้าเรียกคนของพระองค์กลับมา

พระยาห์เวห์พูดว่า
“นี่ พวกเจ้า รีบหนีออกจากแผ่นดินที่อยู่ทางเหนือได้แล้ว
    เพราะเราทำให้เจ้ากระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศ
นี่ พวกเจ้าคนศิโยน ที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในเมืองบาบิโลน
    ให้รีบหนีไปจากเมืองนั้นซะ”
หลังจากที่สง่าราศีของพระองค์ได้ปรากฏให้ผมเห็นแล้ว
    แล้วพระองค์ส่งผมไป
นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดเกี่ยวกับชนชาติต่างๆพวกนั้นที่ปล้นพวกเจ้า
    “ใครทำร้ายเจ้าก็คือทำร้ายแก้วตาดวงใจของเรานั่นเอง
เพราะเราจะยกมือขึ้นเตรียมฟาดขับไล่ชนชาติเหล่านั้นไป
    ชนชาติเหล่านั้นจะกลายเป็นของที่โดนปล้น
สำหรับคนเหล่านั้นที่เคยเป็นทาสของพวกมัน
    แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่าพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นเป็นผู้ที่ส่งผมมา”

10 พระยาห์เวห์พูดว่า
“นางสาวศิโยนเอ๋ย ร้องเพลงและเฉลิมฉลองกันเถอะ
    เพราะเรากำลังมาอาศัยอยู่ในเจ้า
11 ในวันนั้น ชนชาติเป็นจำนวนมากจะมาร่วมกับเรา
    พวกเขาจะกลายเป็นคนของเรา แล้วศิโยน เราจะอาศัยอยู่กับเจ้า”
แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้ส่งผมมาหาพวกเจ้าชาวศิโยน

12 พระยาห์เวห์จะรับยูดาห์เป็นส่วนแบ่งของพระองค์ในแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์
    และพระองค์จะเลือกเยรูซาเล็มเป็นเมืองพิเศษของพระองค์อีกครั้ง
13 มนุษย์ทุกคน ให้เงียบๆไว้ต่อหน้าพระยาห์เวห์
    เพราะพระองค์กำลังลุกขึ้นมาจากที่พักอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

ภาพนิมิตชายผู้หนึ่งกับเชือกที่ขึง

ดูเถิด ข้าพเจ้าเงยหน้าขึ้น และแลเห็นชายผู้หนึ่งถือเชือกที่ขึงอยู่ในมือ และข้าพเจ้าถามว่า “ท่านกำลังจะไปไหน” ท่านตอบข้าพเจ้าว่า “จะไปวัดเยรูซาเล็มเพื่อดูว่า ขนาดกว้างและยาวเท่าไหร่” ดูเถิด ทูตสวรรค์ที่พูดกับข้าพเจ้าก้าวเท้าออกมา และทูตสวรรค์อีกท่านก้าวเท้าออกมา และพูดกับท่านนั้นว่า “รีบวิ่งไปบอกชายหนุ่มคนนั้นดังนี้ว่า ‘เยรูซาเล็มจะเป็นเมืองที่ไม่มีกำแพงล้อม แม้ว่าจะมีประชาชนและสัตว์เลี้ยงจำนวนมากอาศัยอยู่ก็ตาม และเราจะเป็นกำแพงไฟให้กับเมืองโดยรอบ’ พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น ‘และเราจะเป็นบารมีในท่ามกลางเมือง’”

พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ไปเถิด ไปเถิด หนีไปจากแผ่นดินของทิศเหนือ เพราะเราได้ทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายออกไปยังลมทั้งสี่ของฟ้าสวรรค์

ศิโยนเอ๋ย ไปเถิด จงหนีไป เจ้าเป็นผู้ที่อาศัยอยู่กับธิดาแห่งบาบิโลน” พระองค์ส่งข้าพเจ้าไปยังบรรดาประชาชาติที่ได้ปล้นพวกท่าน เพราะผู้ใดก็ตามที่แตะต้องพวกท่าน เท่ากับเขาแตะต้องแก้วตาของพระองค์ ด้วยว่าพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ “เราจะยกมือของเราต่อต้านพวกเขาอย่างแน่นอน และบรรดาทาสรับใช้พวกเขาจะปล้นพวกเขาเอง” และพวกท่านจะทราบว่าพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาได้ส่งข้าพเจ้ามา 10 “โอ ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย จงร้องตะโกนและชื่นชมยินดี เพราะเรากำลังมา และเราจะอยู่ท่ามกลางเจ้า พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 11 ประชาชาติจำนวนมากจะร่วมกับพระผู้เป็นเจ้าในวันนั้น และจะมาเป็นชนชาติของเรา เราจะอยู่ในท่ามกลางเจ้า” และท่านจะทราบว่าพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาได้ส่งข้าพเจ้ามาให้ท่าน 12 พระผู้เป็นเจ้าจะยึดครองยูดาห์เป็นมรดกส่วนหนึ่งของพระองค์ในแผ่นดินอันบริสุทธิ์ และจะเลือกเยรูซาเล็มอีก

13 มนุษย์ทั้งหลายจงนิ่งเงียบ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์กระตุ้นพระองค์เองขึ้นจากที่อันบริสุทธิ์ซึ่งพระองค์สถิต