Add parallel Print Page Options

ของชดใช้สำหรับสิ่งที่โกงเขา

(กดว. 5:5-10)

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เมื่อมีคนๆหนึ่งทำผิดและล่วงเกินพระยาห์เวห์ ด้วยการทำบาปต่อไปนี้ คือโกหกเพื่อนบ้านเกี่ยวกับของที่เพื่อนบ้านฝากให้เขาดูแล หรือเกี่ยวกับของที่เอามาวางมัดจำ[a]ที่เขาได้รับ หรือเกี่ยวกับสิ่งที่กู้ยืมมา หรือของที่ไปปล้นหรือโกงเพื่อนบ้านมา หรือเจอของหายแต่โกหกว่าไม่เจอ หรือสาบานว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่ได้ทำลงไปซึ่งเป็นบาป เมื่อคนๆนั้นได้ทำบาป เขามีความผิด เขาต้องคืนสิ่งที่เขาได้ปล้นมา หรือโกงมา หรือของที่คนอื่นฝากให้เขาดูแล หรือของที่เขาเจอ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขาได้สาบานเท็จไว้ เขาต้องชดใช้เต็มมูลค่าของนั้น และต้องเพิ่มไปอีกหนึ่งในห้าของมูลค่าของนั้น เขาต้องชดใช้ให้กับเจ้าของ ในวันที่พิสูจน์ได้ว่าเขาทำผิดจริง

และเขาต้องเอาของถวายชดใช้มาให้กับพระยาห์เวห์ เป็นแกะตัวผู้ที่ไม่มีตำหนิจากฝูง ตามมูลค่าที่ถูกต้องสำหรับเป็นของถวายชดใช้ แล้วเอามาให้กับนักบวช และโดยวิธีนี้นักบวชจะกำจัดบาปเพื่อเขาต่อหน้าพระยาห์เวห์ และเขาจะได้รับการอภัยสำหรับอะไรก็ตามที่เขาทำไปซึ่งทำให้เขามีความผิด”

เครื่องเผาบูชา

(อพย. 29:38-43; กดว. 28:1-8)

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้สั่งอาโรนและพวกลูกๆของเขาว่า ‘นี่คือกฎระเบียบสำหรับเครื่องเผาบูชา เครื่องเผาบูชาจะต้องอยู่บนไฟบนแท่นบูชาตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า และไฟบนแท่นบูชาจะต้องเผาอยู่ตลอดเวลา 10 นักบวชต้องสวมเสื้อคลุมที่เป็นผ้าลินิน และสวมชุดชั้นในที่เป็นผ้าลินินด้วย เครื่องเผาบูชาที่ถูกไฟเผาบนแท่นบูชา จนกลายเป็นขี้เถ้านั้น นักบวชจะต้องโกยเอาขี้เถ้านั้นมาวางไว้ข้างๆแท่นบูชา 11 จากนั้นนักบวชก็ถอดเสื้อผ้าออก แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวอื่นแทน แล้วเอาขี้เถ้านั้นออกไปนอกค่าย ไปไว้ในสถานที่ที่บริสุทธิ์ 12 แต่ไฟบนแท่นบูชาจะต้องเผาต่อไปเรื่อยๆ ระวังให้ดี อย่าให้ไฟนั้นดับ นักบวชจะต้องคอยเติมฟืนลงไปทุกๆเช้า และคอยจัดการเรื่องเครื่องเผาบูชาบนแท่นนี้ และเผาส่วนไขมันของเครื่องสังสรรค์บูชาบนแท่นบูชานี้ 13 ไฟบนแท่นบูชาต้องเผาอยู่ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้มันดับ

เครื่องบูชาจากเมล็ดพืช

14 นี่คือกฎระเบียบสำหรับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช พวกลูกชายของอาโรนต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชต่อหน้าพระยาห์เวห์บนแท่นบูชา 15 นักบวชต้องหยิบแป้งอย่างดี กับน้ำมัน จากเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชมาหนึ่งกำมือ พร้อมกับกำยาน[b] ทั้งหมด แล้วก็เอาส่วนนี้ ซึ่งเป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาทั้งหมด ไปเผาบนแท่นบูชา เป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

16 อาโรนกับพวกลูกชายของเขากินส่วนที่เหลือได้ ต้องกินมันโดยไม่มีเชื้อฟู และต้องกินในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาต้องกินมันในลานของเต็นท์นัดพบ 17 ต้องเอามันไปอบโดยไม่ใส่เชื้อฟู เราให้ส่วนนี้กับพวกเขาเป็นส่วนแบ่งจากพวกของขวัญ มันเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เหมือนกับเครื่องบูชาชำระล้างและเป็นของถวายชดใช้ 18 ชายทุกคนที่เป็นลูกหลานของอาโรนก็กินมันได้ มันเป็นส่วนแบ่งจากพวกของขวัญที่นำมาถวายพระยาห์เวห์ ที่ให้กับลูกหลานของเขาตลอดไป ใครก็ตามที่แตะต้องเครื่องบูชาเหล่านี้ก็จะถูกอุทิศไว้ให้กับพระยาห์เวห์’”

เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชของนักบวช

19 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 20 “นี่คือเครื่องบูชาที่อาโรนและพวกลูกชายของเขา ต้องเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ ในวันที่อาโรนได้รับการเจิม ให้เป็นนักบวชสูงสุด คือแป้งอย่างดีประมาณสองลิตรเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชประจำวัน ถวายครึ่งหนึ่งในตอนเช้าและอีกครึ่งหนึ่งในตอนเย็น 21 ให้เอาแป้งผสมกับน้ำมันให้เข้ากัน แล้วเอาไปเตรียมบนกระทะเหล็ก และถวายเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ที่เป็นชิ้นๆเป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์

22 ลูกหลานของอาโรนรุ่นต่อไป ที่ได้รับการเจิมให้มาเป็นนักบวชสูงสุดแทนอาโรน จะต้องเป็นคนเตรียมเครื่องบูชานี้ มันคือส่วนแบ่งของพระยาห์เวห์ตลอดไป มันจะต้องเผาจนหมดเกลี้ยง 23 และเครื่องบูชาทั้งหมดที่นักบวชทำขึ้นมา จะต้องเอาไปเผาให้หมดเกลี้ยง ห้ามเอามากิน”

กฎของเครื่องบูชาชำระล้าง

(ลนต. 4:1, 2)

24 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 25 “ให้บอกอาโรนกับลูกๆของเขาว่า ‘นี่เป็นกฎระเบียบสำหรับเครื่องบูชาชำระล้าง คือให้ฆ่าเครื่องบูชาชำระล้างตรงที่เดียวกับที่ฆ่าเครื่องเผาบูชา ต่อหน้าพระยาห์เวห์ มันเป็นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 26 นักบวชที่ถวายเครื่องบูชาชำระล้าง ก็จะต้องกินมัน แต่ต้องกินในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในลานของเต็นท์นัดพบ 27 ใครก็ตามที่แตะต้องเนื้อของเครื่องบูชานี้ จะต้องถูกอุทิศไว้ให้กับพระยาห์เวห์ ถ้าเลือดมันกระเด็นไปถูกเสื้อผ้าของใครเข้า คนๆนั้นจะต้องล้างมันในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 28 และต้องทุบทิ้งหม้อดินทุกใบที่ใช้ต้มเนื้อของเครื่องบูชาชำระล้างนั้น แต่ถ้าใช้หม้อทองสัมฤทธิ์ต้ม ต้องขัดหม้อนั้นและล้างด้วยน้ำ

29 ผู้ชายทุกคนที่เป็นนักบวชจะกินเนื้อของเครื่องบูชาชำระล้างนี้ได้ มันคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 30 แต่ถ้าพวกนักบวชนำเลือดเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพื่อชำระล้างพวกของศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ห้ามกินเครื่องบูชานั้น แต่ให้เอาไปเผาไฟเสีย

Footnotes

  1. 6:2 วางมัดจำ คือค่าประกันหรือของประกัน เป็นเงินที่จ่ายล่วงหน้าบางส่วน เพื่อพิสูจน์ว่าเขาจะกลับมาจัดการกับส่วนที่เหลือแน่
  2. 6:15 กำยาน ต้นไม้ชนิดพิเศษตากแห้ง เมื่อเผาแล้วจะให้ควันที่มีกลิ่นหอมหวาน ใช้เป็นของขวัญให้พระเจ้า

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ถ้าผู้ใดกระทำบาปและไม่ภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า โดยลวงหลอกเพื่อนร่วมชาติของตนในเรื่องของรับฝากหรือการให้ความปลอดภัย การขโมยหรือเอาเปรียบเพื่อนร่วมชาติ หรือพบสิ่งที่หายไปแล้วยังโกหก อีกทั้งสาบานเท็จ เขาจึงกระทำบาปในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่มนุษย์กระทำ เมื่อผู้ใดกระทำบาปและสำนึกผิด เขาจะต้องคืนสิ่งที่เขาขโมยหรือได้จากการฉ้อโกง หรือสิ่งที่เขาได้รับมอบหมาย หรือพบสิ่งที่หายไป หรือการสาบานในเรื่องโกหก เขาจะต้องจ่ายคืนให้ครบ และยังต้องมอบให้เจ้าของเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งในห้าส่วน ในวันถวายของเพื่อไถ่โทษ ให้เขานำของถวายเพื่อไถ่โทษมาให้ปุโรหิตเพื่อพระผู้เป็นเจ้า คือแกะตัวผู้ไม่มีตำหนิจากฝูง เท่ากับค่าของถวายเพื่อไถ่โทษ และปุโรหิตจะทำพิธีชดใช้บาปให้เขา ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และเขาจะได้รับการยกโทษเรื่องที่เขากระทำและมีความผิด”

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงสั่งให้อาโรนและบรรดาบุตรของเขาว่า ‘นี่คือกฎบัญญัติที่เกี่ยวกับสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย ให้วางสัตว์ที่เผาเป็นของถวายบนพื้นเตาที่แท่นบูชาตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า และให้ไฟลุกอยู่ตลอดเวลา 10 ปุโรหิตจะสวมเสื้อผ้าป่านทอทับเสื้อชั้นใน และเขาจะตักขี้เถ้าจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายซึ่งไหม้ไฟที่แท่นบูชา แล้ววางไว้ที่ข้างแท่น 11 จากนั้นให้ปุโรหิตเปลี่ยนเสื้อผ้าป่านเป็นเสื้ออื่นแทน และเอาขี้เถ้าออกไปนอกค่ายยังที่ที่สะอาดของพิธีกรรม 12 ให้ไฟที่แท่นบูชาลุกไหม้อยู่เสมอ อย่าให้ดับ ให้ปุโรหิตเผาไม้ที่นั่นทุกๆ เช้า และให้วางสัตว์ที่เผาเป็นของถวายบนนั้นให้เป็นระเบียบ แล้วเผาไขมันซึ่งเป็นของถวายเพื่อสามัคคีธรรมบนไฟกองนั้น 13 จงให้ไฟที่แท่นบูชาลุกอยู่เสมอ อย่าให้ดับ

เครื่องธัญญบูชา

14 และนี่คือกฎบัญญัติที่เกี่ยวกับเครื่องธัญญบูชา จงให้บรรดาบุตรของอาโรนถวาย ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าที่หน้าแท่นบูชา 15 ให้คนหนึ่งหยิบแป้งสาลีชั้นเยี่ยมหนึ่งกำมือจากเครื่องธัญญบูชาซึ่งมีน้ำมันผสม และกำยานทั้งหมดที่วางไว้บนเครื่องธัญญบูชา และเผาเพื่อเป็นส่วนอนุสรณ์ที่แท่นบูชา ส่งกลิ่นหอมเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า 16 ที่เหลือให้อาโรนและบรรดาบุตรของเขารับประทานได้ แต่ต้องไม่ใช้เชื้อยีสต์ผสม รับประทานในสถานที่ที่บริสุทธิ์ ให้พวกเขารับประทานที่ลานของกระโจมที่นัดหมาย 17 อย่าอบขนมด้วยเชื้อยีสต์ เราให้ของถวายด้วยไฟแก่พวกเขาเพื่อเป็นส่วนแบ่งจากเราคือ เป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุด เช่นเดียวกับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปและของถวายเพื่อไถ่โทษ 18 บรรดาบุตรทุกคนของอาโรนก็รับประทานได้ ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ของทุกชาติพันธุ์ของเจ้าไปตลอดกาล ผู้ใดจับต้องของถวายด้วยไฟเหล่านี้ที่เป็นของพระผู้เป็นเจ้าจะบริสุทธิ์’”

19 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า 20 “ของถวายที่อาโรนและบรรดาบุตรของเขาจะถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าในวันที่เขาได้รับการเจิมคือ แป้งสาลีชั้นเยี่ยมหนึ่งส่วนสิบเอฟาห์เป็นธัญญบูชาประจำวัน ครึ่งหนึ่งในตอนเช้า และอีกครึ่งหนึ่งในตอนเย็น 21 จงผสมด้วยน้ำมันและผสมให้เข้ากัน ทอดบนกระทะก้นแบน และนำมาเมื่อทอดเสร็จเหมือนกับถวายเครื่องธัญญบูชา ส่งกลิ่นหอมเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า 22 ให้บุตรของอาโรนที่ได้รับการเจิมเป็นปุโรหิตคนต่อไปแทนเขาเป็นผู้ถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า ตามกฎเกณฑ์ชั่วนิรันดร์กาล ให้เผาทั้งหมด 23 เครื่องธัญญบูชาที่ปุโรหิตถวายทุกครั้งจะต้องเผาแป้งให้หมด อย่าให้ใครรับประทาน”

เครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป

24 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า 25 “จงบอกอาโรนและบรรดาบุตรของเขาว่า กฎบัญญัติที่เกี่ยวกับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปคือ สัตว์ที่เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุด ต้องฆ่าสัตว์ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าในที่เผาสัตว์เพื่อเป็นของถวาย 26 ปุโรหิตที่ถวายเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปรับประทานสัตว์นั้นได้ และให้เขารับประทานในสถานที่ที่บริสุทธิ์ในลานของกระโจมที่นัดหมาย 27 ผู้ใดจับต้องเนื้อสัตว์ ผู้นั้นจะบริสุทธิ์ และเมื่อเลือดกระเด็นเปื้อนเสื้อผ้า เจ้าจะต้องซักในสถานที่ที่บริสุทธิ์ 28 เจ้าต้องทุบหม้อดินที่ใช้ต้มสัตว์ทิ้ง แต่ถ้าต้มในภาชนะทองสัมฤทธิ์ ก็ต้องขัดถูและล้างน้ำ 29 ชายทุกคนที่เป็นปุโรหิตรับประทานได้ เพราะเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุด 30 แต่ถ้านำเลือดของสัตว์ตัวใดเข้ามาในกระโจมที่นัดหมาย เพื่อใช้ในพิธีชดใช้บาปในวิสุทธิสถาน ก็อย่ารับประทานเนื้อสัตว์ตัวนั้น จงเผาไฟเสีย