51 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า

“ดูเถิด เราจะดลใจผู้ทำลายล้าง
มาสู้กับบาบิโลนและชาวเลบคามาย[a]
เราจะส่งคนต่างชาติมายังบาบิโลน
เพื่อฝัดร่อนและล้างผลาญดินแดนนั้น
พวกเขาจะมาสู้รบกับบาบิโลนทุกด้าน
ในวันแห่งหายนะของบาบิโลน
อย่าให้พลธนูโก่งธนูได้
และอย่าให้เขาหยิบเสื้อเกราะมาสวมทัน
อย่าไว้ชีวิตชายหนุ่มของดินแดนนั้น
จงทำลาย[b]ทั้งกองทัพให้สิ้นไป
พวกเขาจะล้มตายในบาบิโลน[c]
บาดเจ็บสาหัสตามถนนหนทาง
เพราะพระเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
ไม่ได้ทรงทอดทิ้งอิสราเอลและยูดาห์
แม้ดินแดนของเขา[d]จะเต็มไปด้วยความผิด
ต่อหน้าองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

“จงหนีจากบาบิโลน!
จงหนีเอาชีวิตรอดเถิด!
อย่าพลอยถูกทำลายเพราะบาปของมัน
ถึงเวลาการแก้แค้นขององค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว
พระองค์จะทรงกระทำแก่บาบิโลนให้สาสม
บาบิโลนเป็นถ้วยทองคำในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
บาบิโลนทำให้ทั้งโลกเมามาย
ชนชาติทั้งหลายได้ดื่มเหล้าองุ่นของบาบิโลน
บัดนี้พวกเขาจึงคลุ้มคลั่งไป
บาบิโลนจะล่มจมอย่างฉับพลัน แล้วก็แหลกลาญ
จงร่ำไห้ให้กับมัน!
เอายามาบำบัดความเจ็บปวดให้บาบิโลนสิ
เผื่อว่ามันจะหาย

“ ‘เราน่าจะรักษาบาบิโลนให้หาย
แต่มันก็ไม่ยอมหาย
ให้เราทิ้งบาบิโลน และต่างคนต่างกลับไปยังดินแดนของตน
เพราะโทษทัณฑ์ของบาบิโลนสูงเสียดฟ้า
สูงเทียมเมฆ’

10 “ ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ความเป็นธรรมแก่เราแล้ว
มาเถิด ให้เราบอกกล่าวในศิโยน
ถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราได้ทรงกระทำ’

11 “จงลับลูกศรให้แหลมคม
จงหยิบโล่ขึ้นเตรียมพร้อม
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเร่งเร้าเหล่ากษัตริย์แห่งมีเดีย
เพราะทรงตั้งใจจะทำลายบาบิโลน
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงแก้แค้น
แก้แค้นให้พระวิหารของพระองค์
12 จงชูธงขึ้นประชิดกำแพงของบาบิโลน!
จงเสริมกำลังผู้รักษาการณ์
จงวางยามประจำ
จงเตรียมกองซุ่มโจมตีไว้!
องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำให้สำเร็จตามที่ทรงมุ่งหมายไว้
ตามประกาศิตเกี่ยวกับชาวบาบิโลน
13 เจ้าผู้อาศัยริมห้วงน้ำทั้งหลาย
และมีทรัพย์สมบัติมั่งคั่ง
ถึงจุดจบของเจ้าแล้ว
ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะถูกตัดขาด
14 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ได้ปฏิญาณไว้โดยอ้างพระองค์เองว่า
แน่นอน เราจะให้ผู้คนเนืองแน่นดินแดนของเจ้าเหมือนตั๊กแตนฝูงมหึมา
และพวกเขาจะโห่ร้องมีชัยเหนือเจ้า

15 “พระองค์ทรงสร้างโลกโดยฤทธานุภาพ
ทรงสถาปนาพิภพไว้ด้วยพระปรีชาญาณ
และทรงคลี่ฟ้าสวรรค์ออกด้วยความเข้าใจ
16 เมื่อพระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียง ห้วงน้ำในฟ้าสวรรค์ก็ร้องคำราม
พระองค์ทรงให้เมฆลอยขึ้นจากสุดปลายแผ่นดินโลก
ทรงส่งฟ้าแลบให้มากับฝน
และทรงนำกระแสลมออกมาจากคลัง

17 “ทุกคนก็สิ้นคิดและขาดความรู้
ช่างทองทุกคนอับอายขายหน้าเพราะรูปเคารพของตน
เทวรูปของเขาเป็นสิ่งจอมปลอม
พวกมันไม่มีลมหายใจ
18 มันเป็นของไร้ค่า เป็นสิ่งที่น่าเยาะเย้ย
เมื่อถึงเวลาพิพากษา มันก็พินาศ
19 แต่พระองค์ผู้มีกรรมสิทธิ์เหนือยาโคบไม่เหมือนเทวรูปเหล่านี้
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้างสรรพสิ่ง
รวมทั้งเผ่าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์
พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์

20 “เจ้าเป็นตะบองรบ
เป็นอาวุธสำหรับทำสงครามของเรา
ซึ่งเราใช้เจ้าทุบบรรดาประชาชาติ
เราใช้เจ้าทำลายอาณาจักรต่างๆ
21 เราใช้เจ้าทุบม้าและพลม้า
เราใช้เจ้าทุบรถม้าศึกและพลขับ
22 เราใช้เจ้าทุบผู้ชายและผู้หญิง
เราใช้เจ้าทุบคนแก่และเด็ก
เราใช้เจ้าทุบชายหนุ่มและหญิงสาว
23 เราใช้เจ้าทุบคนเลี้ยงแกะและฝูงแกะ
เราใช้เจ้าทุบชาวนาและวัว
เราใช้เจ้าทุบผู้ว่าการและขุนนางทั้งหลาย

24 “เราจะตอบสนองบาบิโลนและคนทั้งปวงที่อาศัยอยู่ในบาบิโลน[e]ต่อหน้าต่อตาเจ้าเพราะความผิดทั้งหมดที่เขาทำในศิโยน” องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

25 “เราเป็นศัตรูกับเจ้า เจ้าภูเขาผู้ทำลายล้างเอ๋ย
เจ้าผู้ผลาญทำลายทั้งโลก”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“เราจะเหยียดมือออกสู้กับเจ้า
จะกลิ้งเจ้าลงจากหน้าผา
และเผาเจ้าให้วอดวาย
26 จะไม่มีการสกัดหินจากเจ้าไปเป็นศิลาหัวมุม
หรือทำเป็นฐานราก
เพราะเจ้าจะถูกทิ้งร้างตลอดไป”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

27 “จงชูธงขึ้นในดินแดนนั้น!
จงเป่าแตรในหมู่ประชาชาติ
จงเตรียมชนชาติต่างๆ ไว้สู้รบกับมัน
จงเรียกอาณาจักรเหล่านี้มาสู้กับมัน
คือเรียกอารารัต มินนี และอัชเคนัส
จงตั้งแม่ทัพขึ้นสู้รบกับดินแดนนั้น
จงส่งฝูงม้ามาให้เนืองแน่นเหมือนฝูงตั๊กแตน
28 จงเตรียมประชาชาติทั้งหลายมาสู้รบกับบาบิโลน
ได้แก่บรรดากษัตริย์มีเดีย
ผู้ว่าการและขุนนางทั้งปวง
ตลอดจนประเทศทั้งปวงใต้อาณัติ
29 แผ่นดินก็สั่นสะท้านและทุรนทุราย
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยืนยันที่จะทำกับบาบิโลนตามที่ทรงตั้งพระทัยไว้
คือทำให้ดินแดนบาบิโลนถูกทิ้งร้าง
ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่
30 นักรบของบาบิโลนหยุดต่อสู้
หมกตัวอยู่ในที่มั่น
พลังของพวกเขาหมดสิ้นไป
เขากลายเป็นเหมือนผู้หญิง
ที่อยู่อาศัยในบาบิโลนถูกวางเพลิง
ลูกกรงประตูเมืองต่างๆ หักพัง
31 นักวิ่งไล่ตามกันไป
ผู้สื่อสารไล่ตามกันไป
เพื่อไปรายงานกษัตริย์บาบิโลนว่า
ทั้งกรุงถูกยึดไปแล้ว
32 ท่าข้ามแม่น้ำถูกยึด
เครื่องกีดขวางถูกเผา
และเหล่าทหารก็ตกใจกลัว”

33 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า

“ธิดาแห่งบาบิโลน[f]เหมือนลานนวดข้าว
เมื่อถึงเวลาก็ถูกเหยียบย่ำ
ไม่ช้าก็จะถึงเวลาเก็บเกี่ยวบาบิโลน”

34 “กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้ขย้ำเรา
พระองค์ได้เหวี่ยงเราลงสู่ความสับสน
พระองค์ได้ทรงทำให้เรากลายเป็นไหเปล่า
พระองค์ได้ทรงกลืนเราเหมือนงูพิษ
กินสิ่งโอชะของเราจนเต็มท้อง
แล้วสำรอกเราออกมา
35 ขอให้ความอำมหิตที่เรากับลูกหลานได้รับนั้นตกอยู่กับบาบิโลนเถิด”
ชาวศิโยนกล่าวดังนั้น
เยรูซาเล็มกล่าวว่า
“ขอให้คนที่อาศัยอยู่ในบาบิโลนชดใช้ที่ทำให้เราสูญเสียเลือดเนื้อ”

36 ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้า ตรัสว่า

“ดูเถิด เราจะให้ความเป็นธรรมแก่เจ้า
และแก้แค้นให้เจ้า
เราจะทำให้ทะเล
และธารน้ำของบาบิโลนเหือดแห้ง
37 บาบิโลนจะเป็นซากปรักหักพัง
เป็นที่อยู่ของหมาใน
เป็นเป้าของความสยดสยองและการดูหมิ่น
เป็นที่ซึ่งไม่มีผู้ใดอยู่อาศัย
38 มวลประชากรของบาบิโลนร้องคำรามเหมือนสิงโตหนุ่ม
ครวญครางเหมือนลูกสิงห์
39 แต่ขณะที่พวกเขาถูกเร่งเร้า
เราจะจัดงานเลี้ยงให้พวกเขา
และทำให้พวกเขามึนเมา
เพื่อพวกเขาจะหัวเราะลั่น
แล้วก็หลับใหลไม่ตื่นตลอดกาล”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
40 “เราจะปราบเขาลง
เหมือนแพะแกะที่ถูกต้อนไปฆ่า

41 “เชชัค[g]จะถูกพิชิต
เมืองซึ่งเป็นที่โอ้อวดของทั่วโลกจะถูกยึด!
บาบิโลนจะเป็นที่สยดสยองยิ่งนัก
ในหมู่ประชาชาติ!
42 ทะเลจะซัดท่วมบาบิโลน
คลื่นคำรามของมันจะกลบบาบิโลนจนมิด
43 เมืองต่างๆ ของบาบิโลนจะถูกทิ้งร้าง
เป็นถิ่นกันดารแห้งแล้ง
เป็นแผ่นดินซึ่งไม่มีใครอยู่อาศัย
ไม่มีใครสัญจรผ่าน
44 เราจะลงโทษพระเบลในบาบิโลน
ทำให้เขาคายสิ่งที่กลืนลงไปออกมา
ชนชาติทั้งหลายจะไม่หลั่งไหลมาหาพระเบลอีกต่อไป
และกำแพงของบาบิโลนจะพังทลาย

45 “ประชากรของเราเอ๋ย จงออกมาจากบาบิโลน
จงหนีเอาชีวิตรอดเถิด!
จงหนีให้พ้นจากพระพิโรธอันรุนแรงขององค์พระผู้เป็นเจ้า
46 อย่าเสียขวัญหรือหวาดหวั่น
เมื่อได้ยินข่าวลือในดินแดนนั้น
ปีนี้ลือกันว่าอย่างนี้ ปีหน้าลือกันว่าอย่างนั้น
ข่าวลือเรื่องการนองเลือดในแผ่นดิน
และเรื่องนักปกครองต่อสู้กัน
47 เพราะเวลานั้นจะมาถึงอย่างแน่นอน
เวลาที่เราจะลงโทษรูปเคารพทั้งหลายของบาบิโลน
ดินแดนบาบิโลนทั้งหมดจะอับอายขายหน้า
และบรรดาผู้ถูกฆ่าจะนอนตายอยู่ในนั้น
48 แล้วฟ้าสวรรค์กับแผ่นดินโลกและสรรพสิ่งในนั้น
จะโห่ร้องยินดีเหนือบาบิโลน
เพราะบรรดาผู้ทำลายจากทางเหนือ
จะมาโจมตีบาบิโลน”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

49 “บาบิโลนจะต้องล่มจมเพราะชนอิสราเอลที่ถูกฆ่า
เช่นเดียวกับคนทั่วโลกที่ถูกฆ่า
ที่ต้องล้มตายเพราะบาบิโลน
50 พวกเจ้าผู้หนีรอดจากคมดาบ
จงไปเสีย อย่ามัวร่ำไรอยู่!
ในแดนไกลโพ้น จงระลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้า
และคิดถึงเยรูซาเล็ม”

51 “เราอับอายขายหน้า
เพราะเราถูกสบประมาท
และความอัปยศกลบหน้าเรา
เพราะคนต่างชาติเข้ามาในที่บริสุทธิ์
ของพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า”

52 องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “แต่วันเวลาจะมาถึง
เมื่อเราจะลงโทษรูปเคารพต่างๆ ของบาบิโลน
และทั่วดินแดนบาบิโลน
จะครวญครางเพราะความย่อยยับ
53 ถึงแม้ว่าบาบิโลนสูงเทียมฟ้า
และเสริมป้อมปราการให้แข็งแกร่ง
เราก็จะส่งผู้ทำลายมารบกับมัน”
            องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

54 “เสียงร้องดังมาจากบาบิโลน
เสียงหายนะใหญ่หลวง
ดังมาจากดินแดนของชาวบาบิโลน
55 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำลายล้างบาบิโลน
จะทรงสยบเสียงอึกทึกน่ารำคาญของมัน
คลื่นศัตรูจะรุกเข้ามาเหมือนห้วงน้ำใหญ่
เสียงสนั่นของเขาจะดังก้อง
56 ผู้ทำลายจะมาสู้กับบาบิโลน
นักรบของบาบิโลนจะถูกจับเป็นเชลย
ธนูของเขาจะถูกหักทิ้ง
เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งการตอบสนอง
พระองค์จะทรงตอบสนองอย่างสาสม
57 เราจะทำให้เหล่าขุนนางและปราชญ์ของบาบิโลนมึนเมา
ตลอดจนผู้ว่าการ นายทหารและนักรบทั้งหลาย
พวกเขาจะหลับใหลและไม่ตื่นอีกเลยตลอดกาล”
            องค์กษัตริย์ผู้ทรงพระนามว่าพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น

58 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า

“กำแพงหนาของบาบิโลนจะถูกทลายราบ
และประตูสูงของมันจะถูกเผา
ประชาชาติทั้งหลายจะเหนื่อยเปล่า
สิ่งที่ได้ลงแรงไว้จะกลายเป็นเพียงเชื้อไฟ”

59 ทั้งหมดนี้เป็นเนื้อความซึ่งเยเรมีย์สั่งไว้กับผู้ดูแลแขวงชื่อเสไรอาห์บุตรเนริยาห์บุตรมาอาเสอาห์ เมื่อเขาไปยังบาบิโลนพร้อมกับกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ในปีที่สี่แห่งรัชกาลของพระองค์ 60 เยเรมีย์บันทึกเกี่ยวกับภัยพิบัติทั้งปวงซึ่งจะเกิดขึ้นกับบาบิโลนไว้ในหนังสือม้วนทั้งหมดซึ่งบันทึกมาข้างต้นเกี่ยวกับบาบิโลน 61 เยเรมีย์กล่าวกับเสไรอาห์ว่า “เมื่อท่านไปถึงบาบิโลน จงอ่านออกเสียงข้อความทั้งหมดนี้ 62 แล้วจงกล่าวว่า ‘ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้ตรัสไว้ว่าจะทรงทำลายสถานที่นี้จนไม่มีทั้งคนและสัตว์อาศัยอยู่ในดินแดนนี้เลย มันจะถูกทิ้งร้างตลอดกาล’ 63 เมื่อท่านอ่านจบแล้ว จงเอาหนังสือม้วนนี้ผูกเข้ากับก้อนหินแล้วเหวี่ยงลงในแม่น้ำยูเฟรติส 64 จากนั้นจงกล่าวว่า ‘เช่นนี้แหละ บาบิโลนจะจมลง ไม่ได้ผุดไม่ได้โผล่อีกเลย เพราะภัยพิบัติซึ่งเราจะนำมายังบาบิโลนและพลเมืองของบาบิโลนจะล้มตาย’ ”

ถ้อยคำของเยเรมีย์จบลงเพียงเท่านี้

Footnotes

  1. 51:1 เลบคามายเป็นรหัสลับที่หมายถึง เคลเดีย ซึ่งก็คือบาบิโลน
  2. 51:3 คำนี้ในภาษาฮีบรูหมายถึงสิ่งของหรือบุคคลที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วไม่อาจเรียกคืนได้ มักจะต้องทำลายให้หมดสิ้นไป
  3. 51:4 หรือเคลเดีย
  4. 51:5 หรือและดินแดนของชาวบาบิโลน
  5. 51:24 หรือเคลเดียเช่นเดียวกับข้อ 35
  6. 51:33 คือ ชาวบาบิโลน
  7. 51:41 เชชัคเป็นรหัสลับที่หมายถึงบาบิโลน

ความพินาศของบาบิโลน

51 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้

“ดูเถิด เราจะกระตุ้นวิญญาณของผู้ทำลาย
    ให้โจมตีบาบิโลน
    โจมตีบรรดาผู้อยู่อาศัยของเลบคามาย[a]
เราจะส่งบรรดาผู้ฝัดร่อนไปยังบาบิโลน
    และพวกเขาจะฝัดร่อนบาบิโลน
และจะริบของไปจากแผ่นดินจนเกลี้ยง
    เมื่อพวกเขามาโจมตีบาบิโลนจากทุกด้าน
    ในวันแห่งความพินาศ
อย่าให้นักธนูง้างคันธนู
    และอย่าให้เขาสวมเกราะ
อย่าไว้ชีวิตบรรดาชายหนุ่มในบาบิโลน
    ทำลายทุกชีวิตของทหารทุกคน
พวกเขาจะล้มตายในแผ่นดินของชาวเคลเดีย
    และบาดเจ็บที่ถนนในเมือง”
เพราะพระเจ้าของอิสราเอลและยูดาห์
    พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา
แม้ว่าแผ่นดินของพวกเขาเต็มด้วยความผิดบาป
    ต่อองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล

จงหนีไปจากบาบิโลน
    ให้แต่ละคนช่วยตัวเองให้รอด
อย่ายอมตายเพราะการลงโทษที่แผ่นดินนั้นได้รับ
    เพราะนี่เป็นเวลาของการแก้แค้นของพระผู้เป็นเจ้า
    เป็นการสนองตอบต่อสิ่งที่พวกเขาได้กระทำ
บาบิโลนเป็นเสมือนถ้วยทองในมือของพระผู้เป็นเจ้า
    ที่ทำให้ทั่วทั้งโลกเมามาย
บรรดาประชาชาติดื่มเหล้าองุ่นของเมืองนั้น
    บรรดาประชาชาติจึงได้บ้าคลั่ง
บาบิโลนจึงได้ล้มและแตกเป็นเสี่ยงๆ ในทันใด
    ร้องรำพันให้กับบาบิโลนเถิด
เอายาทาแผลไปให้เพื่อแก้ความเจ็บปวด
    อาจจะช่วยเขาให้หายก็ได้
พวกเราอยากจะช่วยบาบิโลนให้หายขาด
    แต่ก็รักษาไม่หาย
ปล่อยทิ้งเขาไป และเราไปกันเถิด
    แต่ละคนไปยังบ้านเกิดของตน
เพราะโทษของการตัดสินสำหรับเขาได้ขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์
    และได้ลอยขึ้นสูงเทียมฟ้า
10 พระผู้เป็นเจ้าได้พิสูจน์ว่าพวกเราไม่ผิด
    มาเถิด เรามาประกาศในศิโยนถึงสิ่ง
    ที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรากระทำ

11 ลับลูกธนูให้คม
    และยกโล่พร้อมรบ

พระผู้เป็นเจ้าได้กระตุ้นวิญญาณของบรรดากษัตริย์ของชาวมีเดีย เพราะพระองค์ประสงค์ที่จะทำลายบาบิโลน เพราะเป็นการแก้แค้นของพระผู้เป็นเจ้า แก้แค้นให้พระวิหารของพระองค์

12 จงให้สัญญาณโจมตีกำแพงเมืองของบาบิโลน
    เพิ่มจำนวนทหารยาม
และให้คนเฝ้ายามประจำตำแหน่ง
    เฝ้าระวังอย่าให้มีผู้ใดซุ่มโจมตี
ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำตามที่พระองค์กล่าวว่า
    จะกระทำต่อบรรดาผู้อยู่อาศัยในบาบิโลน
13 โอ เมืองที่อยู่ข้างแม่น้ำหลายสาย
    ซึ่งมั่งคั่งด้วยสมบัติ
จุดจบของเจ้ามาถึงแล้ว
    ชีวิตของเจ้าจบเพียงเท่านี้

14 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาได้ปฏิญาณโดยพระองค์เองดังนี้ว่า

“เราจะให้คนจำนวนมากมาที่บาบิโลนจนเต็มเมือง
    มากมายราวกับฝูงตั๊กแตน
    และพวกเขาจะร้องตะโกนใส่เจ้าด้วยความมีชัย”

15 พระองค์เป็นผู้สร้างแผ่นดินโลกด้วยอานุภาพของพระองค์
    ผู้สร้างโลกด้วยสติปัญญาของพระองค์
และแผ่ฟ้าสวรรค์ออกด้วยความเข้าใจของพระองค์
16 เมื่อพระองค์ส่งเสียง ก็มีเสียงคำรามในฟ้าสวรรค์
    และพระองค์สร้างเมฆให้ลอยขึ้นจากสุดมุมโลก
พระองค์สร้างให้มีสายฟ้าแลบเมื่อมีฝน
    และให้มีลมโบกจากแหล่งเก็บลม
17 มนุษย์ทุกคนเบาปัญญาและไร้ความรู้
    ช่างตีเหล็กทุกคนจะอับอายก็เพราะรูปเคารพของเขา
เพราะรูปที่เขาหล่อขึ้นนั้นจอมปลอม
    และไม่มีลมหายใจ
18 รูปเหล่านั้นไร้ค่าและเป็นที่ดูแคลน
    และจะถูกทำลายเมื่อถึงเวลาพิพากษาโทษ
19 องค์ผู้ที่ยาโคบนมัสการไม่เป็นเหมือนสิ่งเหล่านี้
    เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง
และอิสราเอลเป็นเผ่าพันธุ์ของผู้สืบมรดกของพระองค์
    พระองค์มีพระนามว่า พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา

20 “บาบิโลนเอ๋ย เจ้าเป็นเสมือนค้อนของเรา
    เป็นอาวุธสงคราม
เราใช้เจ้าให้ทำลายบรรดาประชาชาติจนแตกหักเป็นเสี่ยงๆ
    และให้เจ้าทำลายอาณาจักรทั้งหลาย
21 เราใช้เจ้าให้ทำลายม้าและคนขี่จนพินาศ
    เราใช้เจ้าให้ทำลายรถศึกและคนขับจนพินาศ
22 เราใช้เจ้าให้ทำลายผู้ชายและผู้หญิง
    เราใช้เจ้าให้ทำลายผู้สูงวัยและคนวัยรุ่น
    เราใช้เจ้าให้ทำลายคนหนุ่มสาว
23 เราใช้เจ้าให้ทำลายผู้เลี้ยงดูฝูงแกะและฝูงสัตว์
    เราใช้เจ้าให้ทำลายชาวนาและสัตว์ใช้งาน
    เราใช้เจ้าให้ทำลายผู้ปกครองและผู้บัญชาการทั้งหลาย

24 เราจะกระทำตอบบาบิโลนและบรรดาผู้อยู่อาศัยของชาวเคลเดียต่อหน้าชาวอิสราเอล เพราะความชั่วทั้งปวงที่พวกเขาได้กระทำในศิโยน” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

25 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า

“โอ ภูเขาผู้ทำลายเอ๋ย[b] ดูเถิด เราต่อต้านเจ้า
    เจ้าทำลายทั่วทั้งแผ่นดินโลก
เราจะยื่นมือของเราออกเพื่อขัดขวางเจ้า
    และจะกลิ้งเจ้าให้ตกหน้าผา
    และทำให้เจ้าเป็นเทือกเขาที่ถูกไฟไหม้
26 พวกเขาจะไม่เอาหินแม้แต่ก้อนเดียวจากเจ้าไปใช้เป็นศิลามุมเอก
    หรือฐานรากอีก
แต่เจ้าจะเป็นที่รกร้างตลอดไป”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

27 “จงให้สัญญาณบนแผ่นดินโลก
    เป่าแตรงอนท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
จงเตรียมบรรดาประชาชาติให้โจมตีบาบิโลน
    บอกอาณาจักรของอารารัต มินนี และอัชเคนัสให้โจมตีเมืองนั้น
มอบหมายผู้บังคับกองพันให้โจมตีเมือง
    ส่งม้าขึ้นมาให้มากมายราวกับฝูงตั๊กแตน
28 จงเตรียมบรรดาประชาชาติให้โจมตีบาบิโลน
    บรรดากษัตริย์ของชาวมีเดีย
พร้อมด้วยบรรดาผู้ว่าราชการและผู้นำของกษัตริย์
    และทุกดินแดนที่เขาปกครอง
29 แผ่นดินสั่นสะเทือนและบิดด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
    เพราะพระผู้เป็นเจ้ายังประสงค์
ที่จะทำให้บาบิโลนเป็นแผ่นดินรกร้าง
    ปราศจากผู้อยู่อาศัย
30 บรรดานักรบของบาบิโลนได้หยุดต่อสู้
    พวกเขาอยู่ในป้อมปราการที่คุ้มกันไว้อย่างแข็งแกร่ง
พวกเขาท้อแท้
    และกลายเป็นคนอ่อนแอเหมือนผู้หญิง
ที่อยู่ของพวกเขาลุกไหม้
    ดาลประตูหักพัง
31 ผู้นำสาสน์คนแล้วคนเล่า
    และผู้ส่งข่าวคนแล้วคนเล่า
ต่างก็วิ่งไปบอกกษัตริย์แห่งบาบิโลนว่า
    เมืองของเขาถูกยึดโดยรอบ
32 ที่ข้ามธารน้ำถูกยึดหมด
    ที่ลุ่มถูกไฟไหม้
    และบรรดาทหารตื่นตระหนก”

33 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้

“ธิดาแห่งบาบิโลนเป็นเหมือนลานนวดข้าว
    ในยามที่ถูกเหยียบย่ำ
    เวลาเก็บเกี่ยวใกล้จะถึงแล้ว”

34 เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้กลืนกินเราแล้ว
    ท่านเหยียบขยี้เรา
ท่านได้ทำให้เราเป็นเหมือนภาชนะที่ไม่ได้บรรจุสิ่งใด
    ท่านกลืนเราเหมือนยักษ์มาร
ท้องของท่านเต็มด้วยของอร่อยที่เป็นของเรา
    แล้วท่านก็คายเราออก
35 ให้ผู้อยู่อาศัยของศิโยนพูดว่า
    “ขอให้ความรุนแรงที่พวกเราและพี่น้องร่วมชาติของเราถูกกระทำจงเกิดขึ้นกับบาบิโลนเถิด”
ให้เยรูซาเล็มพูดว่า
    “บรรดาผู้อยู่อาศัยของเคลเดียต้องรับผิดชอบกับการตายของเรา”

36 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้

“ดูเถิด เราจะปกป้องพวกเจ้า
    และแก้แค้นให้พวกเจ้า
เราจะทำให้ทะเลของบาบิโลนแห้งลง
    และทำให้แหล่งน้ำของเขาแห้งเหือด
37 และบาบิโลนจะกลายเป็นกองหินปรักหักพัง
    เป็นที่อยู่ของหมาใน
เป็นที่น่าหวาดกลัว และเป็นที่เหน็บแนม
    ปราศจากผู้อยู่อาศัย

38 พวกเขาจะคำรามด้วยกันเหมือนสิงโตคำราม
    พวกเขาจะทำเสียงขู่เหมือนลูกสิงโต
39 ขณะที่พวกเขาหิวกระหาย
    เราจะเตรียมงานเลี้ยงให้แก่พวกเขา
ทำให้เขาเมาและสนุกสนาน
    แล้วก็หลับสนิทจนไม่ตื่นขึ้นอีก”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
40 “เราจะนำพวกเขาลงไป
    อย่างลูกแกะที่จะถูกประหาร
    อย่างแกะและแพะตัวผู้

41 บาบิโลนถูกยึด
    เมืองอันเป็นที่กล่าวยกย่องของทั่วทั้งโลกถูกยึด
บาบิโลนได้กลายเป็นที่น่าหวาดกลัว
    ในท่ามกลางบรรดาประชาชาติอะไรเช่นนี้
42 น้ำทะเลจะเอ่อขึ้นท่วมบาบิโลน
    นางจะถูกท่วมจนมิดด้วยคลื่นที่ซัดครืนครั่น
43 เมืองต่างๆ ของบาบิโลนได้กลายเป็นที่น่าหวาดกลัว
    เป็นแผ่นดินอันแห้งแล้งและเป็นทะเลทราย
เป็นแผ่นดินที่ไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่
    และแผ่นดินที่ไม่มีใครเดินทางผ่าน
44 เราจะลงโทษเทพเจ้าเบลในบาบิโลน
    และเอาสิ่งที่เขากลืนแล้วออกจากปาก
บรรดาประชาชาติจะไม่หลั่งไหลไปหาเขาอีก
    กำแพงเมืองของบาบิโลนถล่มลงแล้ว

45 ชนชาติของเราเอ๋ย จงออกไปจากบาบิโลน
    ทุกคนจงช่วยตัวเองให้รอด
    จากความกริ้วอันร้อนแรงของพระผู้เป็นเจ้า
46 อย่าท้อแท้ใจหรือหวาดหวั่น
    กับเรื่องราวที่ได้ยินในแผ่นดิน
เมื่อได้ยินข่าวปีแล้วปีเล่า
    และความรุนแรงเกิดขึ้นในแผ่นดิน
    ผู้ปกครองแผ่นดินต่อสู้กันเอง

47 ฉะนั้น ดูเถิด จะถึงเวลาที่เราจะ
    ลงโทษพวกรูปเคารพของบาบิโลน
ทั่วทั้งแผ่นดินจะได้รับความอับอาย
    และพวกที่ถูกฆ่าจะล้มตายท่ามกลางแผ่นดิน
48 ครั้นแล้ว ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
    และทุกสิ่งที่อยู่ในที่เหล่านั้น
จะร้องเพลงด้วยความยินดีเมื่อบาบิโลนถล่มลง
    เพราะบรรดาผู้ทำลายจะมาโจมตีพวกเขาจากทิศเหนือ”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
49 “เป็นเพราะอิสราเอลถูกฆ่าฟัน บาบิโลนจึงต้องถล่มลง
    เช่นเดียวกับที่บาบิโลนได้กระทำต่อคนทั่วทั้งโลก

50 พวกเจ้าที่รอดจากความตายมาได้
    จงไปเถิด อย่ายืนนิ่งอยู่
แม้ว่าเจ้าจะอยู่ไกลจากบ้านเกิด แต่ก็จงระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า
    และนึกถึงเยรูซาเล็ม”
51 “พวกเราเผชิญกับความอับอาย
    เพราะพวกเราถูกดูหมิ่น
    พวกเราท่วมท้นด้วยความอัปยศ
เพราะชนต่างชาติได้เข้ามา
    ยังสถานที่บริสุทธิ์ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า

52 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้

“ฉะนั้น ดูเถิด จะถึงเวลาที่เรา
    จะตัดสินลงโทษพวกรูปเคารพของบาบิโลน
และบรรดาผู้บาดเจ็บจะโอดครวญไปทั่วแผ่นดิน
53 แม้หากว่าบาบิโลนจะสามารถปีนขึ้นได้ถึงฟ้าสวรรค์
    และแม้หากว่าบาบิโลนจะสร้างที่สูงให้แข็งแกร่ง
เราก็ยังจะให้บรรดาผู้ทำลายมาโจมตีแผ่นดินนั้น”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

54 “จงฟังเสียงร้องจากบาบิโลนว่า
    เสียงแห่งความวิบัติจากแผ่นดินของชาวเคลเดีย
55 ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้ากำลังทำให้บาบิโลนพินาศ
    และพระองค์จะทำเสียงอันมีอานุภาพของบาบิโลนให้นิ่งเงียบ
เสียงคลื่นครืนครั่นดั่งกระแสน้ำแรงกล้า
    เสียงตะโกนของพวกเขาดังขึ้น
56 ด้วยว่า ผู้ทำลายผู้หนึ่งได้เข้าโจมตีบาบิโลน
    บรรดานักรบของบาบิโลนก็ถูกจับตัวไป
    คันธนูของพวกเขาถูกหักเป็นชิ้นๆ
ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้าคือพระเจ้าแห่งการสนองตอบ
    พระองค์จะจ่ายกลับคืนอย่างแน่นอน
57 เราจะทำให้บรรดาผู้นำ และผู้เรืองปัญญา
    ผู้ปกครอง ผู้บัญชาการ และนักรบของแผ่นดินนั้นเมา
พวกเขาจะหลับสนิทจนไม่ตื่นขึ้นอีก”
    กษัตริย์ผู้มีพระนามว่า พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนั้น

58 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้

“กำแพงเมืองอันกว้างของบาบิโลน
    จะถูกทำให้พังลงราบกับพื้น
และประตูเมืองอันสูงตระหง่าน
    จะถูกไฟไหม้
บรรดาชนชาติสิ้นแรงโดยไร้ประโยชน์
    และบรรดาชนชาติลงแรงเสียเปล่า
    ที่เหลือก็เป็นเพียงเชื้อเพลิง”

59 เยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าบัญชาเสไรยาห์บุตรของเนริยาห์ผู้เป็นบุตรของมัคเสยาห์ เมื่อเขาไปยังบาบิโลนกับเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ ในปีที่สี่ของการปกครอง[c] เสไรยาห์เป็นองครักษ์ผู้ติดตาม 60 เยเรมีย์เขียนเรื่องความพินาศทั้งสิ้นที่จะเกิดแก่บาบิโลนลงในหนังสือ คือทุกคำที่ถูกบันทึกเกี่ยวกับบาบิโลน 61 และเยเรมีย์พูดกับเสไรยาห์ดังนี้ “เมื่อท่านมายังบาบิโลน จงแน่ใจว่าท่านอ่านทุกคำ 62 และพูดว่า ‘โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้กล่าวถึงสถานที่นี้ว่า พระองค์จะตัดขาดจนไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ตาม และจะเป็นที่รกร้างไปตลอดกาล’ 63 เมื่อท่านอ่านหนังสือฉบับนี้จบแล้ว จงผูกติดไว้ที่ก้อนหิน และเหวี่ยงลงกลางแม่น้ำยูเฟรติส 64 และพูดว่า ‘บาบิโลนจะจมลงอย่างนี้ และจะลุกขึ้นไม่ได้อีก เพราะความวิบัติที่เรากำลังนำมาสู่แผ่นดินนี้ และชนชาติของเขาจะเหนื่อยล้าหมดแรง’”

คำพูดของเยเรมีย์จบเพียงเท่านี้

Footnotes

  1. 51:1 ระบบสัญญาณลับของชาวเคลเดีย
  2. 51:25 ภูเขาในที่นี้อ้างถึงอาณาจักรบาบิโลน
  3. 51:59 594 ปีก่อน ค.ศ.