Add parallel Print Page Options

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับบาบิโลน

50 นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์พูดต่อต้านบาบิโลนและต่อต้านแผ่นดินของชาวบาบิโลน พระองค์พูดผ่านมาทางเยเรมียาห์ว่า

“ให้ประกาศเรื่องนี้กับชนชาติต่างๆ
    รายงานให้พวกเขาได้ยิน
ยกธงขึ้นมาและรายงานให้พวกเขาได้ยิน
    อย่าซ่อนเรื่องนี้ไว้ บอกไปเลยว่าบาบิโลนถูกยึดแล้ว
    พระเบลได้รับความอับอายขายหน้า
    พระมาดุกก็หวาดกลัว
รูปเคารพต่างๆของบาบิโลนก็ได้รับความอับอายขายหน้า
    พวกรูปปั้นต่างๆของบาบิโลนก็หวาดกลัว
เพราะชนชาติหนึ่งจากทางเหนือได้ยกทัพมาบุกบาบิโลนแล้ว
    ชนชาตินั้นวางแผนจะทำให้แผ่นดินของเธอรกร้าง
และจะได้ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบาบิโลน
    ทั้งคนและสัตว์ก็หนีไปที่อื่นกันหมด”
พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นและเวลานั้น ลูกหลานของอิสราเอลจะมาที่นี่
    พวกเขาจะมาพร้อมกับลูกหลานของยูดาห์
พวกเขาจะมา และร้องไห้
    แล้วพวกเขาก็จะแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา
พวกเขาจะถามหาทางไปศิโยน
    โดยหันหน้าตรงไปทางนั้น
แต่พวกเขาจะมาและผูกมัดตัวเองกับพระยาห์เวห์
    ในข้อตกลงชั่วนิรันดร์ที่จะไม่มีวันถูกลืมเลย”

“คนของเรากลายเป็นแกะที่หลงทาง
    พวกคนเลี้ยงพวกมันทำให้มันระหกระเหินไป พวกผู้เลี้ยงแกะทำให้พวกมันกระจัดกระจายไปตามภูเขา
พวกมันเดินจากภูเขาไปถึงเนินเขา
    แล้วพวกมันก็ลืมทุ่งหญ้าอันเป็นที่พักพิงของพวกมัน
สัตว์อะไรที่เจอพวกมันเข้าก็กินพวกมัน
ศัตรูที่รังควานพวกมันก็พูดว่า
    ‘พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด’
อันที่จริงพวกเขาได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์
พระยาห์เวห์เป็นทุ่งหญ้าอันแท้จริงของพวกเขา
    พระยาห์เวห์เป็นความหวังของบรรพบุรุษของพวกเขา

หนีไปจากใจกลางเมืองบาบิโลนซะ
    หนีไปจากดินแดนของพวกบาบิโลน
    ออกไปแล้วทำตัวเป็นเหมือนแพะตัวผู้ที่เดินนำหน้าฝูง
เพราะเราจะปลุกเร้ากองทัพอันยิ่งใหญ่ของชนชาติต่างๆทางเหนือมารบกับบาบิโลน
    กองทัพเหล่านั้นจะยกขบวนมาบุกเธอ แล้วบาบิโลนจะถูกยึดที่นั่น
ลูกธนูของพวกเขาเป็นเหมือนนักรบที่เก่งกาจ
    พวกมันจะไม่กลับมามือเปล่า
10 ดังนั้นชาวบาบิโลนจะมีไว้สำหรับให้ปล้นสะดม
    ส่วนคนที่ปล้นเธอก็จะพออกพอใจ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

11 “บาบิโลน ถึงแม้พวกเจ้าจะเฉลิมฉลอง ถึงแม้เจ้าจะชื่นชมยินดี
    เพราะปล้นมรดกของเราไป
ถึงพวกเจ้าจะเต้นระบำเหมือนวัวกระทืบ
    และร้องเหมือนม้าหนุ่มที่แข็งแกร่ง
12 แม่ของเจ้าจะต้องอับอายอย่างมาก
    คนที่คลอดเจ้าออกมาจะต้องอัปยศอดสู
แน่ล่ะ หลังจากชนชาติต่างๆถอนตัวออกไปแล้ว
    ที่นี่ก็จะกลายเป็นป่ารกร้าง แผ่นดินแห้งแล้ง และเป็นทะเลทราย
13 พระยาห์เวห์โกรธ
    ก็เลยไม่มีใครมาอาศัยอยู่ที่นั่น
แต่เธอจะถูกทำลายล้างอย่างสิ้นซาก
    ทุกคนที่ผ่านมาทางบาบิโลนจะตกใจและจะผิวปากเย้ยหยันลอยฟกช้ำของเธอ

14 พวกเจ้าพลธนูเข้าประจำการล้อมรอบบาบิโลนไว้ทุกด้าน
    ยิงไปเลยไม่ต้องประหยัดลูกธนูเอาไว้
    เพราะเธอทำบาปต่อพระยาห์เวห์
15 ร้องตะโกนใส่เธอไปทุกด้าน
    เธอร้องขอความเมตตา
พวกเสาอันมั่นคงของเธอได้หักลงมา
    กำแพงของเธอถูกทำลายลงแล้ว
เพราะนี่เป็นการแก้แค้นของพระยาห์เวห์
    แก้แค้นเอากับเธอ
ให้ทำกับเธอเหมือนที่เธอได้ทำไว้กับคนอื่น
16 กำจัดคนเพาะปลูกและคนใช้เคียวเกี่ยวในช่วงเก็บเกี่ยวออกไปจากบาบิโลน
    ทุกคนจะหนีจากคมดาบของศัตรู
พวกเขาแต่ละคนจะหันหนีกลับไปหาคนของตัวเอง
    และพวกเขาแต่ละคนจะหนีกลับไปยังแผ่นดินของตัวเอง

17 อิสราเอลเป็นฝูงสัตว์ที่กระจัดกระจายไป
    พวกเขาถูกพวกสิงโตไล่กระเจิดกระเจิง
ตัวแรกที่กินอิสราเอลคือกษัตริย์อัสซีเรีย
    และตัวหลังที่กินกระดูกของเขาคือเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลน
18 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูด
‘เรากำลังจะลงโทษกษัตริย์ของบาบิโลนและแผ่นดินของเขาเหมือนกับที่เราได้ลงโทษกษัตริย์ของอัสซีเรียไปแล้ว

19 เราจะนำอิสราเอลกลับมายังทุ่งหญ้าของเขา
แล้วเขาจะเล็มหญ้าบนภูเขาคารเมล และในบาชาน
    พวกเขาจะมีหญ้ากินเหลือเฟือ
    ตามแถบเนินเขาของเอฟราอิมและกิเลอาด’”
20 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นและเวลานั้น
    ผู้คนจะค้นหาความผิดบาปของอิสราเอลแต่ก็จะหาไม่พบ
และจะหาความบาปของยูดาห์แต่ก็จะหาไม่พบ
    เพราะเราจะยกโทษให้กับคนที่เราได้ไว้ชีวิต”

21 พระยาห์เวห์พูดว่า
“ให้บุกขึ้นไปทำลายแผ่นดินเมราธาอิมและชาวเมืองเปโขด
    ฆ่าพวกมันให้สิ้นซากอย่าให้เหลือ
    ให้ทำตามที่เราสั่งทุกอย่าง”

22 มีเสียงรบกึกก้อง
    และการทำลายล้างครั้งใหญ่ในแผ่นดิน
23 ค้อนของทั้งโลก
    ถูกตัดทิ้งและแตกหักไป
บาบิโลนกลายเป็นเมืองรกร้าง
    ท่ามกลางชนชาติอื่นๆ
24 บาบิโลน เราได้วางกับดักเจ้าไว้แล้วและเจ้าก็ติดกับ
    แถมเจ้ายังไม่รู้ตัวเสียอีก
เจ้าถูกค้นพบและถูกจับ
    เพราะเจ้าสู้รบกับพระยาห์เวห์
25 พระยาห์เวห์ได้เปิดคลังอาวุธแล้ว
    และพระองค์จะส่งอาวุธแห่งความเกรี้ยวกราดของพระองค์มา
เพราะนั่นคืองานขององค์เจ้าชีวิตพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    ในแผ่นดินของชาวบาบิโลน

26 เดินทางจากสุดแผ่นดินโลกไปที่บาบิโลนสิ
    เปิดยุ้งฉางของเธอเลย
กองเธอไว้เหมือนกองข้าว
    แล้วก็กำจัดเธอให้สิ้นซาก
อย่าให้มีส่วนไหนของเธอหลงเหลือเลย
27 ทำลายพวกวัวตัวผู้ของเธอให้หมด
    นำมันลงมาเพื่อฆ่า
เป็นช่วงเศร้าสำหรับพวกเขาเพราะวันของพวกเขามาถึงแล้ว
    เป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องถูกลงโทษ
28 มีเสียงของคนวิ่งหนีไป เป็นเสียงของพวกบาบิโลนผู้รอดชีวิต
    จะมีการประกาศในศิโยน
เรื่องการแก้แค้นของพระยาห์เวห์
    เป็นการแก้แค้นของพระองค์สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับวิหารของพระองค์

29 “รวบรวมพลธนูไปบาบิโลน
    รวบรวมทุกคนที่ยิงธนูเป็นตั้งค่ายล้อมเธอไว้
อย่าให้มีใครหนีรอดออกมาได้แม้แต่คนเดียว
    ตอบแทนเธอให้สาสมกับการกระทำของเธอ
ทำกับเธอให้สาสมกับที่เธอทำกับคนอื่น
    เพราะเธอได้กบฏต่อพระยาห์เวห์
    กบฏต่อผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
30 ดังนั้น คนที่เก่งกาจทั้งหมดของเธอจะต้องตายอยู่ที่ลานกลางเมืองของเธอนั่นเอง
    และนักรบทุกคนของเธอก็จะถูกฆ่าในวันนั้น”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

31 “เราจะเป็นศัตรูกับเจ้า ไอ้พวกกบฏ”
องค์เจ้าชีวิตพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่าอย่างนั้น
    “เพราะว่าวันของเจ้ามาถึงแล้ว
    เวลาที่เราจะลงโทษเจ้ามาถึงแล้ว
32 ไอ้พวกกบฏจะสะดุดล้มลง
    จะไม่มีใครยกมันขึ้นมาอีก
เราจะจุดไฟเผาเมืองต่างๆของมัน
    แล้วไฟก็จะเผาผลาญพวกนั้นทั้งหมดที่อยู่รอบๆมันด้วย”

33 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า
“ทั้งลูกหลานของอิสราเอลและลูกหลานของยูดาห์ถูกกดขี่
    และพวกที่จับกุมพวกเขาทั้งหมดก็กักขังพวกเขาไว้ พวกมันไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป
34 แต่พระผู้ไถ่ของเขานั้นแข็งแกร่งกว่า
    พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นคือชื่อของพระองค์
พระองค์จะสู้คดีให้พวกเขาอย่างแน่นอน
    พระองค์จะทำให้แผ่นดินบาบิโลนสั่นสะเทือน
และทำให้ชาวบาบิโลนกลัวจนตัวสั่น”

35 พระยาห์เวห์พูดว่า
“มีดาบมาทำลายชาวบาบิโลน
    มีดาบมาทำลายคนที่อาศัยอยู่ในบาบิโลน พวกเจ้านาย และพวกคนฉลาดของเธอ
36 มีดาบมาทำลายพวกหมอดู
    พวกมันจะกลายเป็นไอ้โง่
มีดาบมาทำลายคนแข็งแกร่งของเธอ
    แล้วพวกเขาจะท้อแท้หมดกำลังใจ
37 มีดาบมาทำลายม้าและรถม้าของเธอ
    รวมทั้งกลุ่มต่างๆที่อาศัยอยู่ในบาบิโลน
    แล้วพวกเขาก็จะขี้กลัวเหมือนพวกผู้หญิง
มีดาบมาทำลายคลังทรัพย์สมบัติของเธอ
    แล้วพวกมันก็จะโดนปล้นไป
38 มีดาบมาทำลายแหล่งน้ำต่างๆของเธอ
    แล้วพวกมันก็จะแห้งขอดไป
สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพราะ
    บาบิโลนเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยรูปเคารพ
    ดังนั้นพวกมันจะถูกทำให้เป็นบ้าไปด้วยความน่าสยดสยอง
39 ดังนั้น สัตว์ร้ายต่างๆและพวกหมาไนจะมาอาศัยอยู่ที่นั่น
    นกเค้าแมวก็จะมาอาศัยอยู่
บาบิโลนจะไม่มีคนมาอาศัยอยู่อีกแล้วตลอดไป
    จะไม่มีคนอยู่ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน”
40 พระยาห์เวห์พูดว่า
“บาบิโลนก็จะเหมือนกับเมืองโสโดมและโกโมราห์ตอนที่พระยาห์เวห์ทำลายพวกมันและประชาชนของมัน
    และจะไม่มีมนุษย์คนไหนอพยพเข้าไปอยู่ด้วย

41 ดูสิ ชนกลุ่มหนึ่งกำลังบุกมาจากทางเหนือ
    ชนชาติที่ยิ่งใหญ่ และกษัตริย์ทั้งหลายกำลังถูกปลุกระดมจากแดนไกลสุดขอบโลก
42 พวกเขาจะถือธนูและหอกมา
    พวกเขาโหดเหี้ยมไร้ความเมตตาปรานี
เสียงพวกเขาดังกึกก้องเหมือนทะเล
    เมื่อพวกเขาควบม้ามา
ลูกสาวของบาบิโลน
    พวกเขาตั้งแถวเตรียมรบกับเจ้าแล้ว
43 กษัตริย์ของบาบิโลนได้ยินข่าวว่าพวกนั้นบุกใกล้เข้ามา
    มือไม้ของเขาก็เลยอ่อนปวกเปียก
เขาเจ็บปวดเหมือนหญิงที่กำลังคลอดลูก

44 เราจะเขย่าขวัญเขาเหมือนสิงโตที่ออกมาจากป่าของแม่น้ำจอร์แดน และเข้าไปที่ทุ่งหญ้าที่เขียวเสมอ อยู่ๆเราก็จะขับไล่พวกเขาไปจากเธอ เราอยากแต่งตั้งใคร เราก็จะแต่งตั้งคนนั้นให้ครอบครองเธอ เพราะจะมีใครเหมือนเราบ้าง ใครจะแต่งตั้งเราหรือ จะมีผู้เลี้ยง[a] คนไหนกล้ามายืนขวางหน้าเราหรือ[b] 45 ดังนั้น พวกเจ้า ให้ฟังแผนการของพระยาห์เวห์ที่ได้วางไว้เพื่อทำลายบาบิโลน และเป็นแผนที่พระองค์วางไว้ต่อต้านดินแดนของชาวบาบิโลน แน่นอน พวกศัตรูจะลากพวกแกะรวมทั้งพวกลูกแกะทั้งหลาย แน่นอน พระยาห์เวห์จะทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขา 46 เมื่อมีรายงานว่าบาบิโลนโดนยึดแล้ว แผ่นดินก็สั่นสะท้าน และชนชาติต่างๆก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความขมขื่น”

Footnotes

  1. 50:44 ผู้เลี้ยง ในสมัยนั้นจะเปรียบเทียบกษัตริย์เหมือนผู้เลี้ยงแกะ
  2. 50:44 ข้อนี้เหมือนกับข้อ 49:19

การตัดสินลงโทษบาบิโลน

50 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ถึงเรื่องบาบิโลนและแผ่นดินของชาวเคลเดียดังนี้

“จงประกาศในท่ามกลางบรรดาประชาชาติให้ทราบ
    จงติดป้ายประกาศ
    อย่านิ่งเฉย แต่จงพูดว่า
‘บาบิโลนถูกยึด
    เทพเจ้าเบลเผชิญกับความอับอาย
    เทพเจ้าเมโรดัคก็ตื่นตระหนก
รูปเคารพของบาบิโลนถูกทำให้เป็นที่น่าอับอาย
    รูปเคารพตื่นตระหนก’

ประชาชาติหนึ่งจากทิศเหนือได้มาโจมตีบาบิโลน และจะทำให้แผ่นดินเป็นที่รกร้าง จะไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ ทั้งมนุษย์และสัตว์จะเตลิดหนีไป”

พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ในครั้งนั้น และในเวลานั้น ประชาชนของอิสราเอลและยูดาห์จะพากันร้องไห้ และเขาทั้งหลายจะมาแสวงหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา พวกเขาจะถามถึงทางไปยังศิโยน และมุ่งหน้าไปทางทิศนั้น พลางพูดว่า ‘มาเถิด ให้พวกเรากลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า เข้าร่วมพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์ที่จะไม่มีวันเลิกล้างอีก’

ชนชาติของเราเป็นแกะที่หลงหาย บรรดาผู้เลี้ยงดูฝูงแกะของพวกเขาได้นำพวกเขาให้หลงผิด ซึ่งทำให้หันกลับไปเตร่บนภูเขา พวกเขาระหกระเหินขึ้นลงบนภูเขาและเนินเขา จนลืมที่พักพิงของตน ทุกคนที่พบพวกเขาก็โจมตีเขา บรรดาศัตรูของพวกเขาพูดว่า ‘พวกเราไม่ผิด เพราะพวกเขาได้กระทำบาปต่อพระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้กอปรด้วยความชอบธรรม ผู้เป็นที่พักพิงของพวกเขา พระผู้เป็นเจ้า ผู้เป็นความหวังของบรรพบุรุษของพวกเขา’

จงหนีออกไปจากบาบิโลน และออกไปจากแผ่นดินของชาวเคลเดีย และเป็นอย่างบรรดาแพะตัวผู้ที่รุดหน้าฝูงออกไป ดูเถิด เราจะกระตุ้นให้บรรดาประชาชาติที่ยิ่งใหญ่ซึ่งร่วมกันมาจากดินแดนทางเหนือ และพวกเขาจะเรียงหน้ากันมาโจมตีและยึดบาบิโลน ลูกธนูของพวกเขาเป็นเหมือนนักรบผู้ชำนาญที่ไม่เคยพลาด 10 เคลเดียจะถูกปล้น ทุกคนที่ปล้นบาบิโลนจะได้จนพอใจ” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

11 “โอ พวกเจ้าปล้นสิ่งที่เป็นของชนชาติเรา
    แม้เจ้าร่าเริงใจ แม้เจ้ายินดี
แม้เจ้าร่าเริงดั่งโคสาวในทุ่งหญ้า
    และทำเสียงร้องเหมือนม้าตัวผู้สำหรับทำพันธุ์
12 เมืองอันเป็นเสมือนมารดาของเจ้าจะเป็นที่น่าอับอาย
    และผู้ที่ตั้งครรภ์เจ้าจะถูกดูหมิ่น
ดูเถิด เมืองนั้นจะด้อยที่สุดในบรรดาประชาชาติ
    จะเป็นถิ่นทุรกันดาร เป็นที่แห้งแล้ง และเป็นทะเลทราย
13 เป็นเพราะความโกรธเกรี้ยวของพระผู้เป็นเจ้า เมืองนั้นจะไม่มีผู้อาศัยอยู่
    แต่จะเป็นที่รกร้างอย่างน่าตกใจ
ทุกคนที่ผ่านบาบิโลนไปก็จะหวาดผวา
    และเหน็บแนมเพราะความวิบัติทั้งสิ้น
14 จงเรียงหน้ากันมาโจมตีให้รอบบาบิโลน
    พวกเจ้าทุกคนที่โก่งคันธนู
จงยิงใส่บาบิโลนโดยไม่ยับยั้ง
    เพราะเมืองนั้นได้กระทำบาปต่อพระผู้เป็นเจ้า
15 จงร้องตะโกนใส่บาบิโลนโดยรอบด้าน
    เมืองที่ยอมจำนน
หอคอยของเมืองล้มแล้ว
    กำแพงเมืองถล่มลง
ด้วยว่า นี่คือการแก้แค้นของพระผู้เป็นเจ้า
    จงแก้แค้นพวกเขา
    กระทำต่อพวกเขาเช่นเดียวกับที่พวกเขาได้กระทำต่อผู้อื่น
16 อย่าให้ผู้ใดหว่านเมล็ดในบาบิโลน
    และอย่าให้ผู้ใดเก็บเกี่ยวในฤดูเก็บเกี่ยว
เพราะดาบของผู้กดขี่ข่มเหง
    ทุกคนจะกลับไปยังชนชาติของตน
    และทุกคนจะหนีไปยังแผ่นดินของตน

17 อิสราเอลเป็นแกะที่ถูกสิงโตไล่ล่า กษัตริย์แห่งอัสซีเรียเป็นคนแรกที่โจมตี และบัดนี้ คนสุดท้ายคือเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนที่แทะกระดูกพวกเขา” 18 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้ว่า “ดูเถิด เรากำลังจะนำการลงโทษมาสู่กษัตริย์แห่งบาบิโลนและแผ่นดินของเขา เช่นเดียวกับที่เราลงโทษกษัตริย์แห่งอัสซีเรียแล้ว 19 เราจะทำให้อิสราเอลคืนสู่ทุ่งหญ้าเดิมของเขา และเขาจะมีอาหารกินบนภูเขาคาร์เมลและในบาชาน และเขาจะอิ่มหนำจนพอใจบนเนินเขาของเอฟราอิมและกิเลอาด”

20 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “ในครั้งนั้น และในเวลานั้น จะมีการค้นหาความชั่วในอิสราเอลแต่จะไม่พบ และจะไม่พบบาปในยูดาห์เช่นกัน เพราะเราจะยกโทษให้แก่บรรดาผู้ที่เราไว้ชีวิตซึ่งมีเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง”

21 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้

“จงขึ้นไปโจมตีแผ่นดินของเมราทาอิม
    และโจมตีบรรดาผู้อยู่อาศัยของเปโขด
ฆ่าและถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า
    และจงทำตามที่เราได้บัญชาเจ้า
22 เสียงสู้รบเป็นที่ได้ยินในแผ่นดิน
    มีเสียงของความพินาศครั้งใหญ่
23 ค้อนที่ทุบทั่วทั้งโลกถูกกำราบ
    และหักเป็นเสี่ยงๆ
บาบิโลนได้กลายเป็นที่น่าหวาดกลัว
    ท่ามกลางประชาชาติทั้งปวงอะไรเช่นนี้
24 โอ บาบิโลนเอ๋ย เราได้วางกับดักเจ้า
    และเจ้าก็ติดกับดักโดยไม่รู้ตัว
เจ้าถูกจับได้
    เพราะเจ้าคัดค้านพระผู้เป็นเจ้า
25 พระผู้เป็นเจ้าได้เปิดคลังอาวุธ
    และนำอาวุธแห่งความขัดเคืองของพระองค์ออกมา
ด้วยว่าพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้ยิ่งใหญ่มีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำ
    ในแผ่นดินของชาวเคลเดีย
26 จงมาจากสุดแดนไกลและโจมตีนางจากสุดมุมโลก
    จงเปิดโรงสีของเมือง
สุมของที่ริบได้เหมือนสุมธัญพืชให้เป็นกองพะเนิน
    และทำให้นางพินาศ
    อย่าให้มีผู้ใดมีชีวิตเหลืออยู่เลย
27 ฆ่าโคหนุ่มทุกตัวของนาง
    ให้พวกมันลงไปถูกประหาร
วิบัติจงเกิดแก่พวกมัน เพราะวันของมันมาถึงแล้ว
    เป็นเวลาแห่งการลงโทษพวกมัน

28 เสียงของบรรดาผู้ลี้ภัยจากแผ่นดินบาบิโลน เพื่อประกาศในศิโยนถึงการแก้แค้นของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา แก้แค้นให้พระวิหารของพระองค์

29 “จงบอกนักธนูที่โจมตีบาบิโลน ทุกคนที่ง้างคันธนู ตั้งค่ายรอบเมือง อย่าปล่อยให้ผู้ใดหลบหนีไปได้ กระทำกลับคืนตามที่เมืองนั้นได้กระทำต่อผู้อื่น เพราะเมืองนั้นยโสและไม่ยอมเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล 30 ฉะนั้น ชายหนุ่มของเมืองจะล้มตายที่ถนนหนทาง และทหารทั้งปวงจะถูกสังหารในวันนั้น” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

31 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้
    “โอ ผู้หยิ่งยโสเอ๋ย ดูเถิด เราจะโจมตีเจ้า
เพราะวันของเจ้ามาถึงแล้ว
    เป็นเวลาที่เราจะลงโทษเจ้า
32 ผู้หยิ่งยโสจะสะดุดและล้มลง
    โดยไม่มีใครพยุงเขาให้ลุกขึ้น
และเราจะจุดไฟให้ลุกในเมืองต่างๆ ของเขา
    และไฟจะเผาผลาญทุกสิ่งที่อยู่รอบข้าง”

33 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ว่า “ชาวอิสราเอลถูกกดขี่ข่มเหง ชาวยูดาห์ก็เช่นกัน บรรดาผู้ที่จับกุมตัวพวกเขาไปก็ได้กุมตัวไว้อย่างใกล้ชิด ไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป 34 ผู้ไถ่ของพวกเขาแข็งแกร่ง พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาคือพระนามของพระองค์ พระองค์จะปกป้องพวกเขาอย่างแน่นอน เพื่อพระองค์จะให้แผ่นดินโลกได้หยุดพัก แต่บรรดาผู้อาศัยอยู่ในบาบิโลนจะไม่ได้หยุดพัก”

35 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้

“ดาบห้ำหั่นชาวเคลเดีย
ห้ำหั่นบรรดาผู้อาศัยอยู่ในบาบิโลน
    และห้ำหั่นบรรดาผู้นำและผู้เรืองปัญญา
36 ดาบห้ำหั่นบรรดาผู้ทำนาย
    เพื่อให้เห็นว่าพวกเขาเป็นคนโง่เขลา
ดาบห้ำหั่นบรรดานักรบ
    เพื่อทำให้พวกเขาตกใจกลัว
37 ดาบห้ำหั่นม้าและรถม้าของบาบิโลน
    และห้ำหั่นพวกทหารต่างชาติท่ามกลางเมือง
    เพื่อพวกเขาจะได้กลายเป็นคนอ่อนแอเหมือนผู้หญิง
ดาบห้ำหั่นสมบัติทั้งหมดของเมืองด้วยการปล้น
38 ให้เมืองนั้นแห้งแล้ง
    เนื่องจากแหล่งน้ำที่แห้งเหือด
เพราะเป็นแผ่นดินแห่งรูปเคารพ
    พวกเขาลุ่มหลงในรูปบูชา

39 ฉะนั้น สัตว์ในทะเลทรายจะอยู่กับสุนัขป่าที่บาบิโลน รวมทั้งนกกระจอกเทศด้วย เมืองนั้นจะไม่มีประชาชนอีกต่อไป จะไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ทุกชั่วอายุคน” 40 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “เช่นเดียวกับเวลาที่พระเจ้าทำลายโสโดมและโกโมราห์และเมืองที่อยู่รอบข้าง จะไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ที่นั่น จะไม่มีบุตรมนุษย์คนใดเดินทางผ่านไปที่นั่นอีก

41 ดูเถิด ชนชาติหนึ่งกำลังมา
    จากดินแดนทางเหนือ
ประชาชาติที่มีอำนาจชาติหนึ่งและมีกษัตริย์จำนวนมากกำลังเตรียมศึก
    จากที่ไกลสุดของแผ่นดินโลก
42 พวกเขาหยิบคันธนูและหอก
    เป็นพวกที่โหดร้ายปราศจากความเมตตา
เสียงของพวกเขาเป็นเหมือนเสียงทะเลครืนครั่น
    ขี่ม้าราวกับคนที่พร้อมจะโจมตีเจ้า
    โอ ธิดาแห่งบาบิโลนเอ๋ย

43 กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ยินเรื่องพวกเขา
    และมือของเขาก็อ่อนปวกเปียก
ความหวาดหวั่นครอบงำเขา
    และเจ็บปวดราวกับหญิงเจ็บครรภ์

44 ดูเถิด ผู้หนึ่งจะเป็นเหมือนสิงโตที่ขึ้นมาจากป่าที่ข้างแม่น้ำจอร์แดน มายังทุ่งอันเขียวชอุ่ม เราจะทำให้พวกเขาเตลิดหนีไปจากที่นั่นทันที และเราจะแต่งตั้งผู้ที่เราเลือกให้ปกครองชาตินั้น ใครจะเป็นเหมือนเรา ใครจะท้าทายเรา ไม่มีผู้เลี้ยงดูฝูงแกะคนใดที่จะขัดขวางเราได้” 45 ฉะนั้น จงฟังว่า พระผู้เป็นเจ้าได้วางแผนทำอย่างไรต่อบาบิโลน และพระองค์ประสงค์จะทำอย่างไรต่อแผ่นดินของชาวเคลเดีย แม้แต่พวกเด็กน้อยในฝูงก็จะถูกลากตัวไป พระองค์จะทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขาอย่างแน่นอนก็เพราะพวกเขา 46 เมื่อบาบิโลนถูกยึด แผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือน เสียงร้องของพวกเขาจะเป็นที่ได้ยินในบรรดาประชาชาติ