Add parallel Print Page Options

สิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับโมอับ

48 เกี่ยวกับโมอับนั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอล พูดว่า

“เราเสียใจกับเนโบ
    เพราะเธอถูกทำลายย่อยยับ
คิริยาธาอิมต้องอับอายขายหน้าและถูกยึด
    ป้อมปราการที่แข็งแกร่งก็ต้องอับอาย
ชื่อเสียงของโมอับสูญสิ้นแล้ว
    ในเฮชโบน ประชาชนได้วางแผนทำร้ายมัน
โดยพูดว่า มาเถอะ มาทำลายชนชาตินี้กัน
เมืองมัดเมนเอ๋ย เจ้าจะต้องถูกทำให้เงียบ
    สงครามไล่ตามเจ้ามา
มีเสียงร้องให้ช่วยดังมาจากโฮโรนาอิม
    เกิดการทำลายล้างและความหายนะครั้งใหญ่ขึ้น
โมอับถูกตีแตกแล้ว
    ลูกเล็กๆของเธอร้องไห้กันใหญ่
คนโมอับเดินร้องไห้สะอึกสะอื้น
    ในระหว่างทางที่เดินขึ้นไปลูฮีท
ส่วนตอนที่เดินลงมาที่เมืองโฮโรนาอิม
    คนโมอับก็ได้ยินเสียงร้องระทมทุกข์
หนีไปซะ เอาชีวิตเจ้าให้รอด
    ถึงจะต้องอยู่โดดเดี่ยวเหมือนพุ่มไม้ในทะเลทราย

เพราะเจ้าไว้วางใจในผลงานและในทรัพย์สมบัติของเจ้า
    ดังนั้นเจ้าก็จะโดนจับ
ส่วนเทพเจ้าเคโมชก็จะถูกเนรเทศไป
    พร้อมกับพวกนักบวชและพวกเจ้าหน้าที่ของมัน
นักทำลายก็จะเข้ามาในทุกเมือง
    และจะไม่มีเมืองไหนเหลือรอด
เขตแดนต่างๆตามหุบเขาจะพินาศ
    และที่ราบจะถูกทำลาย
เหมือนกับที่พระยาห์เวห์ได้บอกไว้แล้ว
เอาเกลือโรยบนโมอับ
    เพราะว่าโมอับจะถูกทำลายอย่างป่นปี้แน่ๆ
และเมืองต่างๆของมันจะกลายเป็นที่รกร้าง
    ไม่มีใครอาศัยอยู่
10 ความหายนะจะเกิดกับคนที่ไม่เต็มใจทำงานที่พระยาห์เวห์สั่ง
    ความหายนะจะเกิดกับคนที่ยั้งดาบไม่ยอมฆ่าคน

11 โมอับอยู่อย่างสบายๆมาตั้งแต่เด็ก
    เหมือนเหล้าองุ่นเก่าที่ปล่อยให้ตกตะกอน
ไม่เคยเทจากขวดหนึ่งไปอีกขวดหนึ่ง
    เขาไม่เคยถูกเนรเทศ
ดังนั้นรสชาติของเขายังคงเดิม
    และกลิ่นของเขาก็ไม่เปลี่ยน”
12 พระยาห์เวห์พูดว่า “ดังนั้น วันนั้นใกล้มาถึงแล้วที่เราจะส่งคนมาเทขวดพวกนั้น
    พวกเขาจะเทเจ้าและขวดของเจ้า
พวกเขาจะเทจนหมดขวด
    และทุบขวดเหล่านั้นให้แตกละเอียด”

13 แล้วโมอับก็จะต้องอับอายขายหน้าเพราะเทพเจ้าเคโมช เหมือนกับที่คนอิสราเอลอับอายขายหน้าที่ได้ไว้วางใจเมืองเบธเอล[a]

14 “เจ้าพูดได้อย่างไรว่า ‘พวกเราเป็นนักรบ
    เป็นนักรบที่กล้าหาญ’
15 นักทำลายได้เข้าโจมตีโมอับและเมืองต่างๆของมันแล้ว
    ชายฉกรรจ์ที่ดีที่สุดของมันก็ถูกฆ่าตาย”
กษัตริย์พูดว่าอย่างนั้น
    และชื่อของพระองค์คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
16 “หายนะของโมอับกำลังจะมาถึงแล้ว
    และความเลวร้าย ก็เข้ามาอย่างเร่งด่วน
17 ร้องไห้โศกเศร้าให้กับเขาสิ
    พวกเจ้าที่อยู่รอบๆเขา
    พวกเจ้าที่รู้จักชื่อของเขา พูดสิว่า
‘คทาที่แข็งแกร่งแตกละเอียดอย่างนี้ได้ยังไง
    คทาที่มีเกียรติขนาดนี้แตกอย่างนี้ได้ยังไงกัน’

18 ชาวเมืองดีโบนเอ๋ย
    ลงมาจากที่สูงอันทรงเกียรติของเจ้าเถอะ
แล้วก็มานั่งกับพวกคนหิวกระหายบนพื้นดินนี้
    เพราะผู้ที่ทำลายโมอับบุกมาตีเจ้าแล้ว
ป้อมปราการอันแข็งแกร่งของเจ้าถูกทลายลงแล้ว

19 ชาวเมืองอาโรเออร์เอ๋ย
    ให้ยืนอยู่ข้างถนนแล้วคอยดู
ให้ถามผู้ชายที่กำลังวิ่งหนี
    และผู้หญิงที่กำลังหลบหนีว่าเกิดอะไรขึ้น

20 โมอับได้รับความอับอายขายหน้าเพราะว่ามันถูกทำลายแล้ว
    ร้องไห้สะอึกสะอื้นสิ
ป่าวร้องไปตามแม่น้ำอารโนนสิว่า
    โมอับถูกทำลายแล้ว
21 การพิพากษาได้มาถึงที่ราบโมอับ
    โฮโลน ยาซาห์ และเมฟาอัทแล้ว
22 มันได้มาถึงดีโบน
    เนโบ เบธดิบลาอิม
23 คิริยาธาอีม เบธกามุล เบธเมโอน
24 เคริโอท โบสราห์ และเมืองทั้งหมดในแผ่นดินโมอับ
    ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล
25 เขาของโมอับถูกตัดเสียแล้ว
    แขนของเขาก็หัก”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

26 มอมโมอับให้เมาสิ
    เพราะเขาคุยโวใหญ่โตทับถมพระยาห์เวห์
โมอับจะเกลือกกลิ้งอยู่ในอ้วกของตัวเอง
    และโมอับก็จะกลายเป็นที่น่าขัน

27 โมอับ เจ้าคิดว่าอิสราเอลน่าขันใช่ไหมล่ะ
    ถึงแม้ว่าอิสราเอลไม่เคยร่วมกับพวกขโมย
แต่เจ้าก็ยังพูดต่อว่าพวกเขา
    และส่ายหัวไปมา
28 ชาวเมืองโมอับ ทิ้งเมืองต่างๆไปซะ
    ไปอยู่ตามซอกหินเถอะ
เป็นเหมือนนกเขาที่ทำรังอยู่ตามซอกเหวลึก

29 พวกเราได้ยินเรื่องความเย่อหยิ่ง
    ถือตัวอย่างมากของโมอับแล้ว
จองหอง อวดดี
    ทะนงตัวและยโสโอหัง

30 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เรารู้ถึงความหยิ่งยโสของโมอับ
    ถึงแม้เขาจะอวดอ้างไปวันๆ
    แต่เราบอกได้เลยว่าเขาจะไม่มีวันทำได้อย่างที่อวดอ้าง”
31 ดังนั้น เราจะร้องคร่ำครวญให้กับโมอับ
    เราจะร้องไห้อย่างทุกข์ทรมานให้โมอับ
    เราจะร้องคร่ำครวญให้กับชาวเมืองคีร์เฮเรส
32 เพราะยาเซอร์ร้องไห้ เราจึงจะร้องไห้ให้กับเจ้า
    เถาองุ่นแห่งสิมาห์
กิ่งก้านของเจ้างอกออกไปถึงทะเล
    พวกมันไปไกลถึงทะเลยาเซอร์ทีเดียว
แต่ผู้ทำลายได้มาเอาผลไม้และผลองุ่นของเจ้าหมดแล้ว
33 ความยินดีถูกกวาดทิ้งไปหมดแล้วจากสวนผลไม้ในแผ่นดินโมอับ
    เราทำให้เหล้าองุ่นหยุดไหลออกมาจากบ่อย่ำองุ่น
ไม่มีเสียงโห่ร้องของคนย่ำองุ่นอีกแล้ว
    เสียงโห่ร้องไม่ใช่โห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดีอีกแล้ว

34 ผู้คนร้องไห้ด้วยความทุกข์ทรมานตั้งแต่เมืองเฮชโบน เรื่อยไปจนถึงเมืองเอเลอาเลห์ ถึงเมืองยาฮาส เขาร้องจากโศอาร์ ถึงโฮโรนาอิม และเอกลัท-เชลีชิยาห์ เพราะแม้แต่แหล่งน้ำในนิมริมก็ยังถูกทำลาย 35 พระยาห์เวห์พูดว่า “แล้วเราจะนำจุดจบมาถึงโมอับที่มีการเผาเครื่องบูชาในที่สูง และเผาเครื่องหอมให้กับเทพเจ้าต่างๆของเขา 36 ดังนั้น ใจของเราร้องคร่ำครวญอย่างโศกเศร้าให้โมอับเหมือนกับเสียงขลุ่ยงานศพ ใจของเราร้องคร่ำครวญอย่างโศกเศร้าให้กับคนเมืองคีร์เฮเรสเหมือนกับเสียงขลุ่ยในงานศพ เพราะความมั่งคั่งของโมอับสูญสิ้นไปแล้ว 37 นั่นก็เพราะทุกหัวถูกโกน ทุกเคราถูกตัดออก ทุกๆแขนเต็มไปด้วยบาดแผล และทุกคนก็สวมผ้ากระสอบรอบเอว 38 บนดาดฟ้าของทุกบ้านในโมอับ และตามพวกลานเมือง มีแต่การร้องไห้ไว้ทุกข์ เพราะเราทำลายโมอับแล้ว เหมือนไหที่ไม่มีใครอยากได้” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น 39 “โมอับถูกทำลายอะไรอย่างนั้น ร้องไห้คร่ำครวญเถอะ โมอับหันหลังให้เราด้วยความอับอาย โมอับกลายเป็นเรื่องน่าตลกขบขัน และเรื่องที่น่าท้อใจสำหรับเมืองที่อยู่แถวๆนั้น”

40 พระยาห์เวห์พูดว่า
“ดูสิ ผู้ทำลายร่อนลงมาเหมือนนกอินทรี
    มันกางปีกบินเหนือโมอับ
41 เมืองคีริโอทถูกยึดครองและป้อมปราการต่างๆของมันก็โดนยึด
    และในวันนั้น หัวใจของนักรบชาวโมอับจะเหมือนหัวใจของหญิงที่กำลังคลอดลูก
42 ชาวโมอับจะถูกทำลายไม่เป็นชนชาติอีกต่อไป
    เพราะเขาได้คุยโวเบ่งทับพระยาห์เวห์

43 ความกลัว หลุมและบ่วงแร้วอยู่ต่อหน้าชาวโมอับ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
44 “คนที่วิ่งหนีไปจากความกลัวจะต้องหล่นลงไปในหลุม
    และคนที่ขึ้นจากหลุมก็จะถูกบ่วงแร้วครอบเอา
เพราะเราจะทำให้สิ่งนี้เกิดกับโมอับในปีที่พวกเขาถูกลงโทษ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้
45 “ในเงาของเฮชโบน
    ก็มีคนพวกนั้นที่ได้วิ่งหนีหมดเรี่ยวแรงมาอยู่
เพราะมีไฟพุ่งมาจากเฮชโบน
    และเปลวไฟได้พุ่งออกมาจากวังของสิโหน
มันจะเผาผลาญหน้าผากของโมอับ
    และหัวของคนเหล่านั้นที่กำลังอึกทึกครึกโครม
46 ความหายนะจะเกิดกับเจ้า โมอับ
    คนของเทพเจ้าเคโมช กำลังพินาศ
เพราะพวกลูกชายของเจ้ากำลังถูกจับไป
    และพวกลูกสาวของเจ้ากำลังถูกจับเป็นเชลย
47 แต่ต่อไปเราจะคืนสิ่งที่ถูกเอาไปจากโมอับ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
    การพิพากษาโมอับก็ได้จบลง

Footnotes

  1. 48:13 เมืองเบธเอล กษัตริย์เยโรโบอัมที่หนึ่งได้สร้างศาลสำหรับบูชาลูกวัวทองคำไว้ที่เมืองนี้

การตัดสินลงโทษโมอับ

48 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวถึงโมอับดังนี้

“วิบัติแก่ภูเขาเนโบ เพราะจะพังพินาศ
    คีริยาทาอิมเผชิญกับความอับอายเพราะถูกยึด
ป้อมปราการเผชิญกับความอับอายและพังทลาย
    โมอับไม่เป็นที่ยกย่องอีกต่อไป
ศัตรูวางแผนโจมตีเฮชโบนให้พินาศด้วยการพูดว่า
    ‘มาเถิด เรามาทำให้ประชาชาติของเขาล่มสลายลง’
โอ พวกคนบ้า พวกเจ้าด้วยที่จะถูกดับลง
    พวกเจ้าจะถูกล่าด้วยดาบ

จงฟังเสียงร้องจากโฮโรนาอิมว่า
    ‘ที่รกร้างและความพินาศ’
โมอับพินาศลง
    เด็กๆ ส่งเสียงร้อง
พวกเขาขึ้นไปยังลูฮีท
    ขึ้นไปพลางร้องไห้ไป
พวกเขาได้ยินเสียงร้องที่เป็นทุกข์กับความพินาศ
    เมื่อลงมาที่โฮโรนาอิม
จงหนีไป เอาตัวรอดเถิด
    เจ้าจะเป็นเหมือนพุ่มไม้ในทะเลทราย
เพราะเจ้าวางใจในพละกำลังและความมั่งมีของเจ้า
    แม้แต่ตัวเจ้าเองก็จะถูกยึดด้วย
และเทพเจ้าเคโมชจะไปกับบรรดาปุโรหิตและผู้นำ
    ที่ถูกจับไปเป็นเชลย
ผู้ทำลายจะมาโจมตีทุกเมือง
    ไม่มีเมืองใดที่จะรอดไปได้
หุบเขาจะเหี้ยนเตียน
    ที่ราบจะถูกทำลาย
    ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวไว้

ให้ปีกแก่โมอับ
    เพื่อจะได้บินหนีไปได้
เมืองต่างๆ จะกลายเป็นที่รกร้าง
    ไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่

10 ผู้ถูกสาปแช่งคือผู้ที่ไม่ทำงานของพระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดกำลัง และผู้ถูกสาปแช่งคือผู้ที่ไม่ยอมฆ่าฟันพวกเขา

11 โมอับอยู่อย่างสบายตั้งแต่ยังเยาว์
    เหมือนเหล้าองุ่นที่ตกตะกอน
ไม่เคยถูกรินจากไหหนึ่งไปอีกไหหนึ่ง
    ไม่เคยถูกจับไปเป็นเชลย
จึงมีรสชาติเหมือนเดิม
    กลิ่นก็ไม่เปลี่ยนแปลง”

12 พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “แต่วันนั้นกำลังจะมาถึง เราจะให้บรรดาผู้รินซึ่งจะรินโมอับอย่างรินเหล้าองุ่นจนหมดไห และทุบไหให้แตกละเอียด 13 แล้วโมอับจะอับอายเพราะเทพเจ้าเคโมช เช่นเดียวกับพงศ์พันธุ์อิสราเอลที่อับอายเมื่อไว้วางใจในเบธเอล[a]

14 เจ้าพูดได้อย่างไรว่า ‘พวกเราเป็นวีรบุรุษ
    และนักรบผู้กล้าหาญ’
15 โมอับและเมืองต่างๆ จะถูกบุกรุกและพังยับเยิน
    และชายหนุ่มที่ถูกคัดเลือกแล้วได้ลงไปให้เขาสังหาร”
    กษัตริย์ผู้มีพระนามว่า พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนั้น
16 “ความวิบัติของโมอับใกล้เข้ามาแล้ว
    และความทุกข์ทรมานของเขาจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
17 ทุกคนที่อยู่รอบตัวโมอับจงเศร้าใจเถิด
    และทุกคนที่ได้ยินกิตติศัพท์จงพูดว่า
‘คทาอันมีอานุภาพหักพังได้ถึงขนาดนี้
    คทาอันสง่างาม’

18 ลงมาจากความสง่า
    และนั่งลงบนฝุ่นที่แห้งผาก
    โอ ธิดาที่อาศัยอยู่ในดีโบน
เพราะผู้ทำลายของโมอับได้ลงมาโจมตีเจ้า
    เขาได้ทำลายเมืองต่างๆ ที่คุ้มกันไว้อย่างแข็งแกร่งแล้ว
19 โอ ผู้อยู่อาศัยของอาโรเออร์เอ๋ย
    จงยืนดูที่ข้างทาง
จงถามผู้ชายที่วิ่งหนีและถามผู้หญิงที่หลบหนีว่า
    ‘เกิดอะไรขึ้น’
20 โมอับได้รับความอับอาย เพราะล่มสลายลงแล้ว
    จงร้องรำพันและส่งเสียงร้อง
จงประกาศบอกที่ข้างแม่น้ำอาร์โนนว่า
    โมอับพังยับเยินแล้ว

21 การลงโทษมาถึงที่ราบสูง ถึงโฮโลน ยาซาห์ และเมฟาอาท 22 ดีโบน เนโบ และเบธดิบลาธาอิม 23 คีริยาทาอิม เบธกามุล เบธเมโอน 24 เคริโอท โบสราห์ และทุกเมืองของแผ่นดินโมอับ ทั้งใกล้และไกล 25 พละกำลังของโมอับสูญสิ้น ไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้ว” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

26 “จงทำให้โมอับเมา เพราะเขาฮึกเหิมต่อพระผู้เป็นเจ้า โมอับจะเกลือกกลิ้งในอาเจียนของตนเอง และจะเป็นที่หัวเราะเยาะ 27 เจ้าหัวเราะเยาะอิสราเอลมิใช่หรือ เขาถูกจับว่าเป็นขโมยหรือ เวลาที่เจ้าพูดถึงเขา เจ้าจึงได้ส่ายหัว

28 โอ บรรดาผู้อาศัยอยู่ในโมอับ
    จงไปจากเมือง และอยู่ในโพรงหิน
เป็นเหมือนนกเขาที่ทำรังบนริมผา
29 เราทราบถึงความหยิ่งยโสของโมอับ
    โมอับยโสมาก
จองหอง เย่อหยิ่ง ทะนงตัว
    และคิดว่าตนเลิศนัก”

30 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า

“เรารู้ถึงความยโสโอหังของโมอับ
    การโอ้อวดของเขาไร้ประโยชน์
    การกระทำของเขาไม่เกิดประโยชน์อันใด
31 ฉะนั้น เราร้องรำพันให้แก่โมอับ
    เราส่งเสียงร้องให้แก่ทุกคนของโมอับ
    เราร้องคร่ำครวญให้แก่ผู้คนของคีร์เฮเรส
32 โอ เถาของสิบมาห์
    เราร้องไห้ ให้เจ้ามากกว่าร้องให้แก่ยาเซอร์
กิ่งก้านของเจ้าแผ่ข้ามทะเลออกไป
    จนถึงทะเลแห่งยาเซอร์
ผู้ทำลายได้ทำความเสียหาย
    แก่ผลไม้ฤดูร้อนและผลองุ่นของเจ้า
33 ความยินดีและร่าเริงใจถูกริบไป
    จากแผ่นดินอันอุดมของโมอับ
เราได้ทำให้เครื่องสกัดเหล้าองุ่นหยุดสกัด
    ไม่มีผู้ใดย่ำองุ่นด้วยเสียงตะโกนแห่งความยินดี
    เสียงตะโกนไม่ใช่เสียงแห่งความยินดี

34 เสียงร้องของพวกเขาดังขึ้นจากเฮชโบนจนถึงเอเลอาเลห์และยาฮาส จากโศอาร์ไปจนถึงโฮโรนาอิมและเอกลัทเชลีชิยาห์ เพราะน้ำในนิมริมแห้งเหือด 35 และเราจะทำให้ผู้มอบเครื่องสักการะที่สถานบูชาบนภูเขาสูงและเผาเครื่องหอมแก่เทพเจ้าของเขาหยุดกระทำในโมอับ” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 36 “ฉะนั้น ใจของเราโอดครวญถึงโมอับเหมือนเสียงขลุ่ย ใจของเราโอดครวญเหมือนเสียงขลุ่ยถึงผู้คนของคีร์เฮเรส ฉะนั้นความมั่งมีที่พวกเขาได้มาก็สาบสูญแล้ว

37 ด้วยว่าศีรษะของทุกคนถูกโกน และเคราก็ถูกโกน มือของทุกคนถูกกรีด และใช้ผ้ากระสอบคาดเอว 38 มีแต่เสียงร้องรำพันบนดาดฟ้าหลังคาบ้านของโมอับและที่ลานชุมนุม เพราะเราได้ทำให้โมอับเป็นอย่างภาชนะแตกที่ไม่มีใครต้องการ” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 39 “มันแตกมากอะไรเช่นนี้ ฟังพวกเขาร้องรำพัน โมอับได้หันหลังกลับด้วยความอดสู ดังนั้นโมอับจึงกลายเป็นที่หัวเราะเยาะ และน่าหวาดกลัวต่อทุกคนที่อยู่รอบข้าง”

40 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า

“ดูเถิด ผู้หนึ่งจะบินโฉบมาเหมือนนกอินทรี
    และกางปีกออกโจมตีโมอับ
41 เมืองต่างๆ และป้อมปราการ
    ที่คุ้มกันอย่างแข็งแกร่งจะถูกยึด
ใจของบรรดานักรบของโมอับจะ
    เป็นอย่างใจของผู้หญิงที่เจ็บครรภ์
42 โมอับจะถูกทำลายและจะไม่เป็นชนชาติอีกต่อไป
    เพราะเขาฮึกเหิมต่อพระผู้เป็นเจ้า
43 โอ ผู้อยู่อาศัยของโมอับเอ๋ย
    ความน่ากลัว หลุมพราง และกับดักอยู่ตรงหน้าเจ้า”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

44 “ผู้ใดก็ตามที่หนีจากความน่ากลัว
    ก็จะตกในหลุมพราง
และผู้ที่ปีนออกจากหลุมพราง
    ก็จะถูกจับในกับดัก
เพราะเราจะให้โมอับประสบกับสิ่งเหล่านี้
    ซึ่งเป็นปีแห่งการลงโทษพวกเขา
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น

45 บรรดาผู้ลี้ภัยหยุดแน่นิ่ง
    ในร่มเงาของเฮชโบน
ด้วยว่า มีไฟลุกจากเฮชโบน
    เปลวไฟจากบ้านของสิโหน
ไฟได้ทำลายหน้าผากของโมอับ
    และกะโหลกของพวกที่ส่งเสียงโอ้อวด
46 โอ โมอับเอ๋ย วิบัติจงเกิดแก่เจ้า
    ชนชาติของเทพเจ้าเคโมชถูกทำลาย
บรรดาบุตรชายของเจ้าถูกจับไปเป็นเชลย
    และบุตรหญิงของเจ้าถูกจับกุม
47 แต่เรายังจะทำให้ความมั่งมีของโมอับ
    คืนสู่สภาพเดิมในภายหลัง พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น”
การตัดสินลงโทษโมอับเป็นไปตามนั้น