Add parallel Print Page Options

วันใหม่กำลังมา

แต่จะไม่มีความเหน็ดเหนื่อยอีกต่อไป สำหรับคนเหล่านั้นที่ตั้งมั่นคงอยู่ในคำสอนนั้น ในอดีตนั้น พระองค์ทำให้ดินแดนของเศบูลุนและนัฟทาลีถูกดูหมิ่น แต่ในอนาคต พระองค์จะทำให้ดินแดนเหล่านั้นยิ่งใหญ่ คือดินแดนที่อยู่ใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดินแดนทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และแคว้นกาลิลี อันเป็นที่อาศัยของคนต่างชาติ

คนที่เคยเดินอยู่ในความมืดได้เห็นความสว่างอันยิ่งใหญ่แล้ว
    คนเหล่านั้นที่เคยอยู่ในแผ่นดินที่มืดมน แสงสว่างก็ได้ส่องลงมายังพวกเขาแล้ว
พระองค์เจ้าข้า พระองค์ได้ทำให้ชนชาติทวีคูณ
    พระองค์ได้เพิ่มความสุขให้กับพวกเขา
พวกเขาชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์
    อย่างกับความสุขที่คนมีกันในยามเก็บเกี่ยว
    อย่างกับความสุขที่คนมีกันตอนแบ่งของที่ยึดมาได้จากสงคราม
เพราะพระองค์ได้หักแอกที่เป็นภาระของพวกเขาทิ้ง
    และเอาคานที่พวกเขาแบกอยู่บนบ่าออกไป
    และเอาไม้ตะบองที่ศัตรูใช้ลงโทษพวกเขาไป อย่างกับตอนที่พระองค์รบชนะชาวมีเดียน[a]
เพราะรองเท้าทหารทุกคู่ที่มุ่งหน้าสู่สนามรบอย่างกึกก้อง
    และเสื้อทหารทุกตัวที่เกลือกกลิ้งเลือดมา จะต้องถูกเผาทิ้ง เป็นเชื้อเพลิงสำหรับไฟ
เพราะมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา
    พระองค์ให้ลูกชายคนหนึ่งกับเรา
และสิทธิอำนาจก็จะตกอยู่ที่บ่าของเด็กคนนี้
    และเขามีชื่อว่า “ที่ปรึกษาอันมหัศจรรย์ นักรบที่ทรงพลังเหมือนพระเจ้า พระบิดาตลอดกาล เจ้าชายแห่งสันติสุข”
สิทธิอำนาจของพระองค์ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
    และจะมีสันติสุขสำหรับบัลลังก์ของดาวิดและอาณาจักรของพระองค์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
พระองค์จะก่อตั้งอาณาจักรของพระองค์ขึ้นและพยุงมันไว้ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรมตั้งแต่เดี๋ยวนี้ไปจนตลอดกาล
    ความรักอันหวงแหนของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะทำให้สิ่งนี้สำเร็จ

พระเจ้าจะลงโทษอิสราเอล

พระยาห์เวห์ส่งข้อความที่ต่อว่ายาโคบ
    และมันตกอยู่บนอิสราเอล
ทุกคนรู้เรื่องนี้
    ทั้งเอฟราอิมและคนที่อาศัยอยู่ในสะมาเรีย
    แต่คนพวกนั้นมีจิตใจที่เย่อหยิ่งจองหอง พวกเขาพูดว่า
10 “ถึงพวกอิฐนี้จะพังลงแล้ว
    แต่เราก็จะสร้างอาคารเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ด้วยหินสกัด
ถึงพวกคานไม้มะเดื่อจะถูกตัดเป็นชิ้นๆแล้ว
    แต่เราก็จะเอาไม้สนซีดาร์เข้าไปแทนที่พวกมัน”
11 พระยาห์เวห์ได้หนุนพวกข้าศึกขึ้นมาต่อสู้อิสราเอล[b]
    พระองค์ได้ยุแหย่พวกศัตรูของเขา
12 มีคนอารามจากทางตะวันออกและคนฟีลิสเตียจากทางตะวันตก
    และพวกเขาก็ได้อ้าปากกว้างกลืนกินอิสราเอลเข้าไป
ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี
    มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา
13 ผู้คนก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาพระองค์ผู้ที่ตีสอนพวกเขา
    พวกเขาก็ยังไม่ยอมแสวงหาพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
14 ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงตัดหัวตัดหางของอิสราเอล
    ตัดทั้งกิ่งปาล์มและต้นกกในวันเดียวกัน
15 หัวในที่นี้ หมายถึงพวกผู้นำอาวุโสและพวกที่มีเกียรติ
    ส่วนหางในที่นี้หมายถึงพวกผู้พูดแทนพระเจ้าที่พูดโกหก
16 เพราะคนเหล่านั้นที่นำประชาชนพวกนี้ได้นำพวกเขาให้หลงทางไป
    คนที่ถูกนำไปนั้นก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
17 เพราะอย่างนี้พระยาห์เวห์จึงไม่สงสารทหารหนุ่มของพวกเขา
    และไม่เมตตาพวกเด็กกำพร้าและพวกแม่ม่ายของพวกเขา
เพราะประชาชนพวกนี้ทั้งหมดเป็นคนที่ไม่เคารพพระเจ้าและเป็นคนชั่วช้า
    และปากแต่ละคนก็พูดแต่เรื่องโง่ๆ
ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี
    มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา
18 เพราะความเลวทรามของพวกเขาเผาอยู่อย่างไฟ
    ตอนแรกมันก็เผาหญ้าและหนาม
ต่อมาก็ลุกลามเผาพงไม้ใหญ่ในป่า
    และพวกมันทุกคนถูกเผากลายเป็นควันม้วนขึ้นไปในอากาศ
19 เพราะความโกรธของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นทำให้แผ่นดินนั้นถูกเผาผลาญ
    และประชาชนก็กลายเป็นเชื้อเพลิงสำหรับไฟนั้นไม่มีใครพยายามช่วยชีวิตใครเลย
20 ประชาชนหันไปทางขวาและกินอย่างตะกละตะกลามแต่ก็ยังหิวอยู่
    พวกเขาก็เลยหันไปทางซ้ายและเขมือบเข้าไปแต่ก็ยังไม่พอ
แต่ละคนก็เลยหันไปกินเนื้อลูกหลานของตัวเอง
21 มนัสเสห์กัดกินเอฟราอิม เอฟราอิมก็กัดกินมนัสเสห์
    และทั้งสองก็ไปต่อสู้กับยูดาห์
ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี
    มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา

Footnotes

  1. 9:4 พระองค์รบชนะชาวมีเดียน ดูเพิ่มเติมได้จาก หนังสือกันดารวิถี 22:1 เป็นต้นไปหรือ หนังสือผู้วินิจฉัยบทที่ 6 และ 7
  2. 9:11 หนุนพวกข้าศึกขึ้นมาต่อสู้อิสราเอล นี่คงจะเป็นข้อความในสำเนาต้นฉบับเดิม แต่สำเนาฉบับฮีบรูที่เรามีอยู่เดี๋ยวนี้ เขียนว่า “พวกปฏิปักษ์ของเรซีน”

ทารกผู้หนึ่งมาบังเกิดเพื่อพวกเรา

แต่จะไม่มีความมืดมนสำหรับผู้ที่อยู่ในความเจ็บปวดรวดร้าว ในอดีตพระองค์ทำให้เขตแดนของเผ่าเศบูลุนและเขตแดนของเผ่านัฟทาลีเป็นที่ดูหมิ่น แต่ต่อมาภายหลัง พระองค์ให้กาลิลีของบรรดาประชาชาติได้รับเกียรติ โดยเส้นทางทะเล ดินแดนโพ้นแม่น้ำจอร์แดน

ชนชาติที่ดำเนินชีวิตในความมืด
    ได้เห็นความสว่างอันยิ่งใหญ่
ผู้ที่อยู่อาศัยในดินแดนของความมืดมน
    ได้รับความสว่างที่ส่องมาถึงแล้ว
พระองค์ทวีจำนวนคนให้แก่ประชาชาตินั้น
    พระองค์เพิ่มความยินดีให้
และพวกเขาก็ยินดี ณ เบื้องหน้าพระองค์
    เป็นความยินดีอย่างที่มีในฤดูเก็บเกี่ยว
    ยินดีอย่างที่พวกเขาดีใจเมื่อแบ่งปันสิ่งที่ริบมา
ทั้งแอกที่เป็นภาระของเขา
    ไม้เท้าที่เขาแบกบนบ่า
    และไม้ตะบองของผู้บีบบังคับเขา
พระองค์ได้ทำให้สิ่งเหล่านั้นยับเยินไป
    เหมือนวันที่พวกมีเดียนพ่ายแพ้
รองเท้าของนักรบทุกคู่ที่ย่ำในสงคราม
    และเครื่องแต่งกายทุกชิ้นที่แปดเปื้อนเลือด
    จะถูกเผาดั่งเชื้อเพลิง
ด้วยว่า ทารกมาบังเกิดเพื่อพวกเรา
    คือบุตรชายที่ประทานให้แก่พวกเรา
และท่านจะเป็นผู้แบกภาระปกครอง
    และท่านจะได้รับพระนามว่า
ที่ปรึกษาผู้ล้ำเลิศ พระเจ้าผู้มีอานุภาพ
    พระบิดาแห่งนิรันดร์กาล ราชาแห่งสันติสุข
การปกครองและสันติสุขของท่านเพิ่มพูน
    อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ท่านจะครองบัลลังก์ของดาวิด และอาณาจักรของท่าน
    เพื่อสถาปนาและเชิดชูอาณาจักร
ด้วยความเป็นธรรมและความชอบธรรม
    นับจากบัดนี้ไปจนชั่วนิรันดร์กาล
ความรักอันแรงกล้าของพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากระทำการนี้

การลงโทษความยโสของอิสราเอล

พระผู้เป็นเจ้าได้ส่งข้อความกล่าวโทษยาโคบ
    ซึ่งจะตกอยู่กับอิสราเอล
และชนชาติทั้งปวงจะทราบเรื่องนี้
    ทั้งเอฟราอิมและบรรดาผู้อยู่อาศัยของสะมาเรีย
    พูดด้วยความภูมิใจและหยิ่งยโสว่า
10 “อิฐพังทลายลงแล้ว
    แต่พวกเราจะสร้างด้วยหินที่แต่งแล้ว
ต้นมะเดื่อถูกโค่นลง
    แต่พวกเราก็จะปลูกต้นซีดาร์แทน”
11 แต่พระผู้เป็นเจ้าเตรียมพวกศัตรูของเรซีนให้พร้อมเพื่อมาสู้รบกับพวกเขา
    และกระตุ้นศัตรูเหล่านั้น
12 ทั้งพวกชาวอารัมที่ด้านตะวันออก และชาวฟีลิสเตียที่ด้านตะวันตก
    ก็ได้อ้าปากเพื่อเขมือบอิสราเอล
ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังไม่หายกริ้วกับเรื่องเหล่านี้
    และมือของพระองค์จึงยังเหยียดออกไป

13 ประชาชนไม่ได้หันเข้าหาพระองค์ผู้ลงโทษพวกเขา
    และไม่ได้แสวงหาพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา
14 ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าจึงตัดหัวและหางของอิสราเอล
    ทั้งกิ่งอินทผลัมและไม้อ้อภายในวันเดียว
15 หัวหน้าชั้นผู้ใหญ่และชายผู้สูงศักดิ์ก็คือหัว
    และผู้เผยคำกล่าวที่สอนความเท็จก็คือหาง
16 บรรดาผู้ที่นำทางชนชาตินี้ได้นำพวกเขาให้หลงผิด
    และบรรดาผู้ที่ถูกพวกเขานำไปก็ถูกกลืนกิน
17 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าไม่ยินดียินร้ายกับพวกคนหนุ่มของพวกเขา
    และไม่สงสารพวกเด็กๆ และแม่ม่ายของพวกเขา
เพราะทุกคนไร้คุณธรรมและทำความชั่ว
    ทุกปากพูดแต่สิ่งโง่เขลา
พระองค์ก็ยังไม่หายกริ้วกับเรื่องเหล่านี้
    และมือของพระองค์จึงยังเหยียดออกไป

18 ด้วยว่า ความชั่วลุกไหม้เหมือนไฟ
    มันเผาพุ่มไม้หนามและต้นหนาม
มันปะทุให้พุ่มไม้ทึบในป่าลุกโพลง
    และลอยตัวขึ้นเป็นกลุ่มควันดั่งเสาหลัก
19 แผ่นดินถูกเผาด้วยความ
    โกรธเกรี้ยวของพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา
และประชาชนเป็นเหมือนเชื้อเพลิง
    ไม่มีใครไว้ชีวิตใคร
20 พวกเขาเฉือนเนื้อทางด้านขวา
    แต่ก็ยังหิวอยู่
พวกเขากัดกินทางด้านซ้าย
    แต่ก็ไม่อิ่มหนำ
แต่ละคนกัดกินเชื้อสายของตนเอง
21     มนัสเสห์เขมือบเอฟราอิม และเอฟราอิมเขมือบมนัสเสห์
    พวกเขาร่วมกันต่อสู้ยูดาห์
พระองค์ก็ยังไม่หายกริ้วกับเรื่องเหล่านี้
    และมือของพระองค์จึงยังเหยียดออกไป