Add parallel Print Page Options

การลงโทษของอิสราเอลจะสิ้นสุดลง

40 พระเจ้าของพวกเจ้าพูดว่า
    “ให้ปลอบโยน ให้ปลอบโยนชนชาติของเรา
ให้พูดกับคนเยรูซาเล็มอย่างอ่อนโยน
    และให้บอกกับเธอว่าการเป็นทาสรับใช้ของเธอนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว
เธอได้ใช้หนี้บาปของเธอแล้ว
    พระยาห์เวห์ได้ลงโทษเธอเป็นสองเท่าแล้วสำหรับบาปทั้งหมดของเธอ”
มีเสียงหนึ่งร้องว่า
    “ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ให้เตรียมทางสำหรับพระยาห์เวห์
    ให้สร้างทางหลวงให้ตรงไปให้กับพระเจ้าของเราในทะเลทราย
ทุกๆหุบเขาจะถูกถมให้สูงขึ้น
    ทุกๆภูเขาและเนินเขาจะถูกปราบให้แบนราบลง
พื้นที่ลุ่มๆดอนๆจะเสมอกันไปหมด
    พื้นที่ที่ขรุขระจะราบเรียบ
แล้วสง่าราศีของพระยาห์เวห์ก็จะถูกเปิดเผยออกมา
    และมนุษย์ทุกคนก็จะได้เห็นมันพร้อมๆกัน
    เพราะปากของพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาออกมาอย่างนี้”

มีเสียงหนึ่งบอกว่า “ตะโกนสิ”
    แต่ข้าบอกว่า “จะให้ข้าตะโกนอะไรหรือ
มนุษย์ทุกคนก็เป็นเหมือนหญ้า
    และความจงรักภักดีของเขาเป็นเหมือนดอกไม้ในทุ่ง
หญ้าเหี่ยวแห้งไป ดอกไม้ก็ร่วงโรยไป
    เมื่อลมจากพระยาห์เวห์เป่าไปถูกมัน”
    เสียงนั้นตอบว่า “ใช่แล้ว มนุษย์เป็นเหมือนหญ้า
หญ้าก็เหี่ยวแห้งไป ดอกไม้ก็ร่วงโรยไป
    แต่พระคำของพระเจ้าของเราจะยั่งยืนตลอดกาล”

ศิโยนเอ๋ย ผู้นำข่าวดี
    ขึ้นไปบนภูเขาสูงสิ แล้วตะโกนให้สุดเสียงของเจ้า
เยรูซาเล็มเอ๋ย ผู้นำข่าวดี
    ร้องตะโกนให้ดังๆไม่ต้องกลัว บอกเมืองต่างๆของยูดาห์ว่า
    “นี่ไง พระเจ้าของพวกเจ้า”
10 ดูสิ พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตกำลังมาด้วยพลังอันเกรียงไกร
    พระองค์จะปกครองด้วยแขนอันทรงพลังของพระองค์
พระองค์เอารางวัลมาให้
    และพระองค์จะจ่ายค่าตอบแทนให้แต่ละคน
11 พระองค์จะนำหน้าฝูงแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ
    พระองค์จะรวบรวมลูกแกะไว้ในอ้อมแขนของพระองค์
    และอุ้มพวกมันไว้ในอ้อมอกและนำแม่แกะไปหาน้ำ

ใครเล่าเป็นเหมือนพระยาห์เวห์

12 ใครหนอ ที่ตวงน้ำทั้งทะเลได้ด้วยอุ้งมือเดียวหรือวัดท้องฟ้าได้ในหนึ่งคืบ
    และใครกันที่สามารถถือฝุ่นทั้งโลกในถ้วยตวงเดียว
    หรือชั่งพวกภูเขาบนตาชั่งและพวกเนินเขาบนตราชู
13 มีใครหรือที่ชี้ทางให้กับพระวิญญาณของพระยาห์เวห์
    และสั่งสอนพระองค์เหมือนเป็นที่ปรึกษาของพระองค์
14 พระองค์ต้องปรึกษาใครหรือ เพื่อจะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้
    พระองค์ต้องให้ใครมาสอนพระองค์เรื่องความยุติธรรมหรือ
ใครสอนให้พระองค์มีความรู้
    ใครเล่าเรื่องทางแห่งสติปัญญาให้พระองค์เข้าใจหรือ
15 ดูสิ ชนชาติทั้งหลายเปรียบเหมือนน้ำหยดเดียวในถัง
    หรือถือเป็นแค่ขี้ฝุ่นบนตราชั่ง
    ดูสิ พระองค์ยกเกาะทั้งหลายเหมือนผงฝุ่น
16 จะเอาไม้ทั้งป่าเลบานอนมาเป็นฟืนเผาเครื่องบูชาให้กับพระองค์
    และสัตว์ทั้งหมดของเลบานอนมาเผาเป็นเครื่องบูชาก็ยังไม่สมกับเกียรติของพระองค์
17 ต่อหน้าพระองค์ ชนชาติทั้งหมดอย่างกับเป็นศูนย์เลย
    พระองค์ถือว่าชนชาติทั้งหมดนั้นน้อยกว่าศูนย์และไร้ค่า
18 เจ้าจะเปรียบพระเจ้าเหมือนใครหรือ
    จะเอารูปอะไรมาเปรียบกับพระองค์หรือ
19 จะเปรียบพระองค์เหมือนรูปเคารพหรือ
    ที่ช่างหล่อขึ้นมาแล้วช่างทองก็เอาทองมาหุ้มไว้
    และทำสร้อยเงินให้กับมัน
20 ส่วนคนที่ยากจนก็จะเลือกไม้ที่จะไม่ผุมา
    แล้วหาช่างไม้ที่เก่งๆมาแกะสลักรูปเคารพที่จะไม่ล้มคว่ำลงมา
21 พวกเจ้าไม่เคยรู้หรือ
    พวกเจ้าไม่เคยได้ยินหรือ
ไม่เคยมีใครบอกพวกเจ้าตั้งแต่แรกหรือ
    พวกเจ้าไม่เคยเข้าใจเรื่องที่เป็นจริงตั้งแต่วางรากสร้างโลกมาหรือ
22 คือพระองค์เป็นผู้นั้นที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์
    เหนือวงกลมของโลกนี้
และเมื่อพระองค์มองลงมา
    พวกที่อาศัยอยู่บนมันก็เป็นเหมือนกับตั๊กแตน
พระองค์เป็นผู้ที่ขึงฟ้าสวรรค์ออกเหมือนขึงผ้าเต็นท์
    และกางมันออกเหมือนกางเต็นท์ให้อยู่
23 พระองค์เป็นผู้ที่ทำให้พวกผู้ครอบครองหมดสภาพไป
    และทำให้พวกผู้พิพากษาของโลกนี้กลายเป็นศูนย์
24 พวกนั้นเป็นเหมือนกับพวกพืชที่เพิ่งจะหว่านยังไม่ทันลงรากเลย
    พระองค์ก็เป่าพวกมันซะแล้ว
แล้วพวกเขาก็เหี่ยวแห้งไป
    แล้วพายุก็มาพัดพวกเขาไปเหมือนฟาง
25 องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์พูดว่า “พวกเจ้าจะเปรียบเรากับใครหรือ
    ใครจะมาเทียบกับเราได้หรือ”
26 เงยหน้าขึ้นและมองซะ
    ใครเป็นผู้ที่สร้างสิ่งเหล่านี้
พระองค์ได้นำกองทัพหมู่ดาวเหล่านั้นออกมาทีละดวง
    และเรียกชื่อมันแต่ละดวง ไม่มีสักดวงที่ขัดขืนไม่ออกมา
เพราะพระองค์มีพลังอันมหาศาล
    และฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่

27 ยาโคบเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงบ่นอย่างนี้
    อิสราเอลเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงพูดว่า
“พระยาห์เวห์มองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้า
    และพระเจ้าของข้าก็ไม่เห็นสนใจที่จะให้ความยุติธรรมกับข้าเลย”
28 เจ้าไม่รู้หรือ เจ้าไม่เคยได้ยินหรือ ที่ว่า
    พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าตลอดมาและตลอดไป เป็นผู้สร้างทั้งโลก
พระองค์ไม่เคยเหนื่อยหรือหมดเรี่ยวแรง
    ไม่มีใครหยั่งรู้ถึงสติปัญญาของพระองค์ได้
29 พระองค์ให้เรี่ยวแรงกับคนที่เหน็ดเหนื่อย
    และเพิ่มกำลังให้กับคนที่หมดเรี่ยวแรง
30 แม้คนหนุ่มๆจะเหนื่อยและหมดเรี่ยวแรง
    และชายหนุ่มจะสะดุดล้มลง
31 แต่คนเหล่านั้นที่ฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์จะมีกำลังขึ้นมาใหม่
    และจะบินสูงขึ้นไปเหมือนติดปีกนกอินทรี[a]
พวกเขาจะวิ่งและจะไม่หมดเรี่ยวแรง
    พวกเขาจะเดินและจะไม่เหนื่อย

Footnotes

  1. 40:31 เหมือนติดปีกนกอินทรี หรือแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า “จะมีปีกงอกออกมาเหมือนนกอินทรี”

ให้กำลังใจชนชาติของพระเจ้า

40 พระเจ้าของพวกท่านกล่าวว่า
    “จงให้กำลังใจ ให้กำลังใจชนชาติของเรา
จงพูดกับเยรูซาเล็มด้วยวาจาอันอ่อนหวาน
    และร้องบอกเมืองนั้นว่า
การต่อสู้อย่างหนักของเมืองนั้นจบลงแล้ว
    และได้รับอภัยโทษบาป
พระผู้เป็นเจ้าได้ทำโทษเมืองนั้น
    เป็นสองเท่าของบาปทั้งปวงที่พวกเขาทำ”

มีเสียงร้องว่า “ในถิ่นทุรกันดาร
    จงเตรียมทางของพระผู้เป็นเจ้าให้พร้อม
    จงทำทางในทะเลทรายให้ตรงเพื่อพระเจ้าของเรา[a]
หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกให้สูงขึ้น
    ภูเขาและเนินเขาทุกลูกจะถูกลดให้ต่ำลง
พื้นดินที่ไม่สม่ำเสมอจะเป็นทางเรียบ
    และที่ขรุขระจะเป็นที่ราบ
และพระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าจะปรากฏ
    และมนุษย์ทุกคนจะมองเห็นพร้อมกัน[b]
    เพราะคำพูดออกจากปากของพระผู้เป็นเจ้า

คำกล่าวของพระเจ้ายั่งยืนอยู่ตลอดกาล

มีเสียงกล่าวว่า “จงร้องบอกเถิด”
    และข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าจะร้องอะไร”
มนุษย์ทุกคนเป็นเสมือนต้นหญ้า
    และความงามเป็นเสมือนดอกไม้ในทุ่ง
ต้นหญ้านั้นเหี่ยวแห้งและดอกร่วงโรย
    เมื่อพระผู้เป็นเจ้าพ่นลมหายใจของพระองค์บนใบหญ้า
    แน่ทีเดียว คนเป็นเสมือนต้นหญ้า
ต้นหญ้านั้นเหี่ยวแห้งและดอกร่วงโรย
    แต่คำกล่าวของพระเจ้าของเราจะยั่งยืนอยู่ตลอดกาล[c]

ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

จงขึ้นไปบนภูเขาสูง
    โอ ผู้นำข่าวประเสริฐมายังศิโยน
จงโห่ร้องด้วยเสียงอันดัง
    โอ ผู้นำข่าวประเสริฐมายังเยรูซาเล็ม
    จงโห่ร้อง อย่ากลัวเลย
จงบอกเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า
    “ดูเถิด พระเจ้าของพวกเจ้า”
10 ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่มาด้วยอานุภาพ
    และพระองค์ปกครองด้วยพลานุภาพ
ดูเถิด รางวัลของพระองค์อยู่กับพระองค์
    และพระองค์จะตอบสนอง
11 พระองค์จะเฝ้าฝูงแกะของพระองค์เหมือนผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ
    พระองค์จะรวบรวมบรรดาลูกแกะไว้ในอ้อมแขน
และอุ้มพวกเขาแนบทรวงอกของพระองค์
    และค่อยๆ นำ พวกแม่แกะที่มีลูกอ่อนกินนม

12 ใครวัดห้วงน้ำด้วยอุ้งมือของเขา
    และวัดฟ้าสวรรค์ด้วยฝ่ามือได้
ใครรวบรวมผงคลีดินไว้ในถ้วยตวง
    ใช้ตราชูชั่งเทือกเขา
    และใช้เครื่องวัดน้ำหนักวัดเนินเขาได้
13 ใครหยั่งพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าได้
    หรือใครจะให้คำปรึกษาแก่พระองค์ได้[d]
14 ใครเป็นผู้ที่พระองค์ปรึกษาด้วย
    และใครทำให้พระองค์เข้าใจ
ใครสอนวิถีทางแห่งความยุติธรรมแก่พระองค์
    และสอนความรู้แก่พระองค์
    และชี้แนะให้พระองค์เข้าใจได้
15 ดูเถิด บรรดาประชาชาติเป็นเหมือนหยดน้ำหยดหนึ่งในถัง
    และนับว่าเป็นเช่นเดียวกับธุลีบนตราชู
    ดูเถิด พระองค์ชั่งหมู่เกาะต่างๆ เหมือนชั่งผงคลี
16 เลบานอนไม่ดีพอที่จะเป็นเชื้อเพลิง
    และสัตว์ป่าที่นั่นก็มีไม่พอเพื่อใช้เผาเป็นของถวาย
17 ประชาชาติทั้งปวงไม่สามารถกระทำสิ่งใดต่อพระองค์ได้
    พวกเขาเปล่าประโยชน์ยิ่งกว่าศูนย์
    และมีสภาพว่างเปล่า

18 ฉะนั้นแล้ว พวกท่านจะเปรียบพระเจ้ากับผู้ใด
    หรือจะเปรียบรูปลักษณ์ของพระองค์กับอะไร
19 รูปเคารพเป็นสิ่งที่ช่างฝีมือหล่อขึ้น
    ช่างทองชุบมันด้วยทองคำ
    และทำสร้อยเงินสวมให้รูปเคารพ
20 คนที่ยากไร้เกินไปที่จะมอบของถวายเช่นนั้น
    ก็จะเลือกไม้ที่ไม่ผุ
เขาหาช่างฝีมือผู้ชำนาญ
    ติดตั้งรูปเคารพที่ขยับเขยื้อนไม่ได้

21 ท่านไม่ทราบหรือ
    ท่านไม่ได้ยินหรือ
ท่านไม่ได้รับฟังมาตั้งแต่แรกหรือ
    ท่านไม่เข้าใจนับตั้งแต่การวางฐานรากของแผ่นดินโลกหรือ
22 พระองค์พำนักอยู่เหนือโค้งของแผ่นดินโลก
    และบรรดาผู้อยู่อาศัยเป็นเหมือนตั๊กแตน
พระองค์แผ่ฟ้าสวรรค์ออกเหมือนปะรำ
    และกางฟ้าสวรรค์ออกเหมือนกระโจมเพื่อเป็นที่พำนัก
23 พระองค์ทำให้บรรดาผู้นำกระทำสิ่งใดไม่ได้เลย
    และทำให้บรรดาผู้ปกครองของแผ่นดินโลกเป็นดั่งความว่างเปล่า
24 พวกเขายังไม่ทันจะถูกปลูก ยังไม่ทันจะถูกหว่านเมล็ด
    กิ่งก้านยังไม่ทันงอกรากลงดิน
เมื่อพระองค์พ่นลมหายใจใส่พวกเขา พวกเขาก็เหี่ยวเฉาไป
    และพายุหมุนหอบพวกเขาไปเหมือนแกลบ

25 องค์ผู้บริสุทธิ์กล่าวว่า “ฉะนั้นพวกเจ้าจะเปรียบเราได้กับใคร
    ว่าเราควรจะเป็นเหมือนกับเขา”
26 ท่านจงเงยหน้าขึ้นดูสิ
    ใครสร้างสิ่งเหล่านี้
พระองค์ผู้สร้างทุกสิ่งที่อยู่บนฟ้าจำนวนมหาศาล
    เรียกชื่อทุกสิ่งบนนั้น
ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
    และเพราะว่าพระองค์มีอานุภาพยิ่งนัก
    จึงไม่มีสิ่งใดขาดหายไปเลย

27 โอ ยาโคบเอ๋ย ทำไมท่านจึงพูด
    โอ อิสราเอลเอ๋ย ทำไมท่านจึงกล่าวดังนี้
พระผู้เป็นเจ้าไม่เห็นวิถีทางของเรา
    และพระเจ้าไม่สนใจให้ความยุติธรรมแก่เรา”
28 พวกท่านไม่รู้หรอกหรือ
    พวกท่านไม่ได้ยินหรอกหรือ
พระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้าตลอดกาล
    องค์ผู้สร้างแดนไกลสุดขอบโลก
พระองค์ไม่อ่อนล้าหรือสิ้นกำลัง
    ความหยั่งรู้ของพระองค์หามีขอบเขตจำกัดไม่
29 พระองค์มอบอานุภาพให้แก่ผู้อ่อนล้า
    และเสริมกำลังแก่ผู้ที่ขาดพลัง
30 แม้บรรดาวัยรุ่นก็ยังจะอ่อนล้าและสิ้นกำลัง
    และชายหนุ่มจะอ่อนแรง
31 แต่บรรดาผู้ที่รอคอยพระผู้เป็นเจ้า
    จะได้รับการเสริมสร้างพลังขึ้นใหม่
พวกเขาจะโผขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี
    พวกเขาจะวิ่ง แต่ไม่หมดกำลัง
    พวกเขาจะเดิน แต่ไม่อ่อนล้า