Add parallel Print Page Options

สังคมเสื่อมทราม

น่าสมเพชจริงๆ ผมกลายเป็นคนเก็บผลไม้หรือลูกองุ่น
    หลังจากที่เขาเก็บลูกองุ่นไปหมดแล้ว
    ไม่เหลือองุ่นสักพวงให้กิน
ไม่มีลูกมะเดื่อที่ผมชอบเหลืออยู่เลย
ผมหมายถึง คนที่จงรักภักดีถูกทำลายไปหมดแล้วจากแผ่นดินนี้
    ไม่มีคนซื่อตรงเหลืออยู่เลยสักคน
ทุกคนเฝ้าคอยซุ่มฆ่าคนอื่น
    ต่างคนต่างล่าชีวิตของกันและกันด้วยตาข่าย
มือทั้งสองของพวกเขาก็ถนัดในการทำชั่ว
    พวกข้าราชการและผู้พิพากษารับสินบน
พวกคนใหญ่คนโตก็เรียกร้องสิ่งที่พวกเขาอยากได้
    และร่วมมือกับผู้พิพากษาในการบิดเบือนความยุติธรรม
คนที่ดีที่สุดของพวกเขาก็ยังเหมือนกับพุ่มหนาม
    คนที่ซื่อตรงที่สุดของพวกเขาก็เหมือนกับลวดหนาม

เวลาแห่งการลงโทษใกล้เข้ามาแล้ว

ข้าแต่พระยาห์เวห์ เวลานั้นที่พวกคนเฝ้ายาม[a] ของพระองค์ทำนายเอาไว้ ใกล้เข้ามาแล้ว
    เวลานั้นที่พระองค์จะมาลงโทษใกล้เข้ามาแล้ว
    แล้วเมื่อนั้น พวกคนชั่วทั้งหลายจะสับสนวุ่นวาย
อย่าได้ไว้วางใจเพื่อนบ้านของพวกเจ้า อย่าไว้ใจเพื่อนสนิทของเจ้า
    แม้แต่เมียในอ้อมอกเจ้าก็ต้องระวังว่าจะพูดอะไรกับนาง
ลูกชายหัวเราะเยาะพ่อของเขา
    ลูกสาวกบฏต่อแม่ของตัวเอง
ลูกสะใภ้กบฏต่อแม่ผัว
    ศัตรูที่เลวร้ายที่สุดก็คือ คนในบ้านของตัวเอง

พระยาห์เวห์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด

แต่ส่วนผม จะเฝ้ารอคอยและฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์
    ผมจะอดทนรอคอยพระเจ้า ผู้ช่วยให้รอดของผม
    เมื่อผมร้องขอความช่วยเหลือ พระเจ้าของผมจะฟังผม
ศิโยนพูดว่า ศัตรูของข้า อย่าได้ดีใจไป ที่ข้าต้องพบกับความยากลำบาก
    ถึงข้าล้ม ข้าก็จะลุกขึ้นมาอีก
ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะนั่งอยู่ในความมืด
    พระยาห์เวห์จะเป็นแสงสว่างให้กับข้า

ข้าจะต้องทนต่อความโกรธของพระยาห์เวห์
    เพราะข้าได้ทำบาปต่อพระองค์
จนกว่าพระองค์จะแก้ต่างให้กับข้า
    และให้ความยุติธรรมกับข้า
พระองค์จะนำข้าไปสู่ความสว่าง
    และข้าจะเห็นพระองค์ให้ความเป็นธรรม
10 ขอให้ศัตรูของข้าได้เห็นเรื่องนี้และอับอายขายหน้าอย่างยิ่ง
    แล้วตาของข้าจะจ้องมองเธอคนที่พูดใส่หน้าข้าว่า
    “ไหนล่ะ พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”
เมื่อถึงตอนนั้น เธอจะถูกเหยียบย่ำเหมือนขี้โคลนบนถนน

11 มีคาห์พูดกับศิโยนว่า แล้วในวันนั้น กำแพงของพวกเจ้าจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่[b]
    วันนั้นจะเป็นวันที่พรมแดนของเจ้าจะขยายออกไป
12 เมื่อถึงตอนนั้น คนของเจ้าจะกลับมาหาเจ้าจากทุกหนแห่ง จากอัสซีเรียไกลถึงอียิปต์
    จากอียิปต์ไกลถึงแม่น้ำยูเฟรติส
จากทะเลหนึ่งไปถึงอีกทะเลหนึ่ง
    จากภูเขาหนึ่งไปถึงอีกภูเขาหนึ่ง

13 แต่โลกนอกเขตแดนของเจ้าจะถูกทำลาย
    มันเป็นผลกรรมของคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น
14 ผู้คนพูดว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ได้โปรดเลี้ยงดูคนของพระองค์ซึ่งเป็นลูกแกะของพระองค์ด้วยไม้เลี้ยงแกะของพระองค์
    ลูกแกะเหล่านั้นอาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวในป่าละเมาะ มีทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ล้อมรอบ
ขอให้พวกฝูงแกะมาหากินในบาชานและกิเลอาดเหมือนที่พวกมันเคยทำในสมัยก่อนโน้น

คำอธิษฐานขอพระเจ้าจัดการศัตรู

15 พระยาห์เวห์ ได้โปรดแสดงการอัศจรรย์ทั้งหลายให้เราเห็น
    เหมือนกับตอนที่พระองค์นำพวกเราออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
16 ขอให้ชนชาติทั้งหลายเห็นการอัศจรรย์ต่างๆเหล่านั้น
    และรู้สึกละอายกับอำนาจอันน้อยนิดที่พวกเขามี
ขอให้พวกเขาเอามือปิดปากด้วยความตะลึงงัน
    และขอให้หูของพวกเขาหนวกไป
17 ขอให้พวกเขาเลียผงดินเหมือนงูหรือสัตว์อื่นๆที่เลื้อยคลานอยู่บนดิน
    ขอให้พวกเขาเดินออกมาจากป้อมปราการของเขาอย่างตัวสั่นงันงก
ขอให้พวกเขามาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ด้วยความหวาดกลัวและเกรงกลัวอยู่ต่อหน้าพระองค์

สรรเสริญพระยาห์เวห์

18 จะมีพระองค์ไหนที่เป็นเหมือนกับพระองค์
    พระองค์ให้อภัยกับการกระทำชั่ว
พระองค์ให้อภัยกับพวกที่กบฏต่อพระองค์
    คือคนของพระองค์ที่รอดชีวิตมาได้
พระองค์ไม่ฝังใจโกรธพวกนั้นตลอดไป
    เพราะพระองค์มีความสุขที่จะแสดงความรักอันมั่นคงของพระองค์
19 พระองค์จะกลับมาเมตตาพวกเราอีกครั้ง
    พระองค์จะให้อภัยกับการกระทำที่ชั่วร้ายของเรา
    พระองค์จะโยนบาปทั้งหมดของเราทิ้งลงในทะเลลึก
20 พระองค์เจ้าข้า ขอให้พระองค์รักษาสัญญาที่ให้กับยาโคบ
    ขอให้พระองค์แสดงความรักอันมั่นคงให้กับอับราฮัม
ตามที่พระองค์สาบานไว้กับบรรพบุรุษของเราตั้งแต่สมัยก่อนโน้น”

Footnotes

  1. 7:4 คนเฝ้ายาม เป็นอีกชื่อหนึ่งของผู้พูดแทนพระเจ้า แสดงให้เห็นว่าผู้พูดแทนพระเจ้าเป็นเหมือนยามที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองและเฝ้าดูว่าจะมีอันตรายอะไรมาจากแดนไกลหรือไม่
  2. 7:11 ในปี 445 ก่อนพระเยซูมาเกิด เนหะมียาห์ ได้นำชาวยิวบางคนจากบาบิโลนกลับมาที่เยรูซาเล็มเพื่อสร้างกำแพงขึ้นมาใหม่