Add parallel Print Page Options

นักบวชดีกับนักบวชเลว

พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า “ฟังให้ดี พวกนักบวชทั้งหลาย คำสั่งนี้มีไว้สำหรับพวกเจ้า ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อฟังเรา และไม่ใส่ใจให้เกียรติเรา เราก็จะสาปแช่งเจ้า เราจะเอาพระพรต่างๆของเจ้าไป และสาปแช่งเจ้าแทน ความจริงเราก็ได้ทำอย่างนั้นแล้ว เพราะเจ้าไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้

เราจะลงโทษลูกหลานของเจ้า แล้วเราจะเอาขี้จากไส้ของสัตว์ที่เจ้าเอามาถวายในเทศกาลของเจ้า มาละเลงหน้าเจ้า แล้วคนก็จะแบกเจ้าโยนออกไปที่กองขี้เหล่านั้น และพวกเจ้าก็จะได้รู้ว่าเป็นเราเองที่ส่งคำสั่งนี้มาให้กับเจ้า เพื่อว่าข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับเผ่าเลวีจะคงอยู่ต่อไป”

พระยาห์เวห์พูดว่า “เราได้ทำข้อตกลงกับเผ่าเลวี เพื่อเราจะได้ให้ชีวิตและสันติสุขกับพวกเขา และเราก็ได้ให้ชีวิตและสันติสุขอย่างนั้นกับพวกเขาแล้ว เพื่อว่าพวกเขาจะได้เคารพนับถือเรา

และพวกเขาก็ได้เคารพนับถือ

และตะลึงพรึงเพริดไปกับความยิ่งใหญ่ของเรา พวกเขาสอนความจริงอย่างสัตย์ซื่อ

และไม่เคยสอนสิ่งที่วิปริตชั่วร้าย

เขาใช้ชีวิตอยู่กับเราอย่างสันติ

และทำในสิ่งที่ถูกต้อง

เขาพาคนเป็นจำนวนมาก

ให้หันกลับจากการทำผิด

ที่พวกเขาเป็นอย่างนั้น ก็เพราะว่า

นักบวชควรจะสอนความจริงอย่างระมัดระวัง

ผู้คนควรจะมาหานักบวชเพื่อให้นักบวชสอนเขาเกี่ยวกับกฎของพระเจ้า

เพราะว่านักบวชเป็นผู้ส่งข่าวของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น”

พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า “แต่พวกเจ้านักบวช ได้หันไปจากทางของพระเจ้า และทำให้คนเป็นจำนวนมากทอดทิ้งกฎ พวกเจ้าได้ทำลายข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับเผ่าเลวี เราถึงได้ทำให้เจ้าอับอายขายหน้าต่อหน้าคนทั้งปวง ที่เราทำอย่างนี้ ก็เพราะเจ้าไม่ได้เดินตามแนวทางของเรา แต่ละคนโอนเอียงไปทำตามสิ่งที่พวกเจ้าแปลกันเองจากกฎนั้น”

อย่าทำผิดคำมั่นสัญญา

10 พวกเราทั้งหมดมีพระบิดาองค์เดียวกันไม่ใช่หรือ และพระเจ้าผู้ที่สร้างพวกเราแต่ละคน ก็เป็นพระเจ้าองค์เดียวกันไม่ใช่หรือ แล้วทำไมเราถึงไปโกงพี่น้องของเราละ การทำอย่างนี้เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามคำสัญญาที่พระเจ้าได้ทำไว้กับบรรพบุรุษของเรา 11 คนเผ่ายูดาห์ได้ทำสิ่งที่เลวร้ายและน่ารังเกียจขยะแขยงต่อคนอิสราเอลและต่อเมืองเยรูซาเล็ม มันเป็นเพราะว่าคนเผ่ายูดาห์ได้ดูหมิ่นเหยียดหยามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ ที่พระองค์รัก และได้แต่งงานกับคนที่กราบไหว้บูชาพระต่างชาติ 12 ขอให้พระยาห์เวห์ตัดคนที่ทำอย่างนั้นออกไปจากครอบครัวของยาโคบไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใครก็ตาม ถึงแม้เขาจะเอาของขวัญมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นก็ตาม 13 และพวกเจ้าจะทำอีกอย่างหนึ่งคือ พวกเจ้าจะต้องร้องไห้คร่ำครวญ จนน้ำตาไหลนองทั่วแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ไม่ยอมหันมามองของขวัญที่เจ้าเอามา และไม่ยินดีที่จะรับมันมาจากมือของพวกเจ้า

14 แล้วเจ้าก็ถามว่า “ทำไมพระเจ้าถึงไม่ยอมรับเรา” ก็เพราะพระยาห์เวห์เป็นพยานถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าและเมียที่เจ้าแต่งด้วยตั้งแต่เป็นหนุ่ม ผู้หญิงที่เจ้าได้นอกใจ ทั้งๆที่นางก็เป็นคู่ทุกข์คู่ยากของเจ้า และเป็นผู้หญิงที่เจ้าเคยให้คำมั่นสัญญาที่จะอยู่ด้วยตลอดไป 15 พระเจ้าต้องการให้สามีและภรรยาเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อลูกที่เกิดมาจะได้อยู่ในแนวทางของพระองค์ ดังนั้นระวังจิตใจของพวกเจ้าให้ดี อย่าได้นอกใจเมียที่เจ้าแต่งด้วยตั้งแต่เป็นหนุ่ม

16 พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลพูดว่า “ที่เราพูดอย่างนี้ ก็เพราะเราเกลียดการหย่าร้าง และเกลียดคนที่ปกปิดเสื้อผ้าของเขาด้วยรอยของความเหี้ยมโหด” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนั้น ดังนั้นให้ระวังจิตใจของพวกเจ้าและอย่าได้นอกใจเมีย

เวลาแห่งการพิพากษา

17 พวกเจ้าทำให้พระยาห์เวห์เบื่อด้วยคำพูดของพวกเจ้า แต่เจ้าพูดว่า “เราทำอะไรถึงทำให้พระองค์เบื่อหรือ” ก็ตอนที่เจ้าพูดว่า “ในสายตาของพระยาห์เวห์เห็นว่าคนที่ทำชั่วนั้นเป็นคนดี และพระองค์ก็ชื่นชอบพวกเขาด้วย” หรือ ตอนที่เจ้าพูดว่า “พระเจ้าแห่งความยุติธรรมอยู่ที่ไหน”

พระผู้เป็นเจ้าตักเตือนบรรดาปุโรหิต

“และบัดนี้ ปุโรหิตเอ๋ย คำสั่งนี้สำหรับเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวว่า “ถ้าพวกเจ้าจะไม่ฟัง ถ้าพวกเจ้าจะไม่ใส่ใจเพื่อยกย่องนามของเรา เราก็จะให้คำสาปแช่งตกอยู่กับพวกเจ้า และเราจะแช่งสาปพรที่เป็นของพวกเจ้า จริงๆ แล้วเราได้แช่งสาปพรแล้ว เพราะพวกเจ้าไม่ใส่ใจเลย ดูเถิด เราจะห้ามเชื้อสายของพวกเจ้า และจะละเลงหน้าพวกเจ้าด้วยสิ่งปฏิกูลจากของถวายของพวกเจ้า และพวกเจ้าจะถูกรวมไปทิ้งด้วยกัน เจ้าจะรู้ว่า เราได้ส่งคำบัญชานี้มาให้พวกเจ้า เพื่อพันธสัญญาของเราที่มีกับเลวีนั้นจะคงอยู่ต่อไป” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “พันธสัญญาของเราที่มีกับเขาเป็นพันธสัญญาแห่งชีวิตและสันติสุขซึ่งเรามอบให้แก่เขา เป็นพันธสัญญาแห่งความเกรงกลัว และเขาเกรงกลัวเรา เขายำเกรงนามของเรา การสั่งสอน[a]ที่แท้จริงอยู่ในปากของเขา เขาไม่ได้พูดสิ่งใดผิด เขาดำเนินไปกับเราด้วยสันติสุขและความเที่ยงธรรม และเขาทำให้คนจำนวนมากหันไปจากบาป เพราะปากของปุโรหิตควรเป็นที่เก็บรักษาความรู้ และประชาชนควรแสวงหาการสั่งสอนจากปากของเขา เพราะเขาเป็นผู้ส่งข่าวของพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา แต่พวกเจ้าได้หันเหไปจากวิถีทาง พวกเจ้าเป็นเหตุให้คนจำนวนมากสะดุดด้วยการสั่งสอนของพวกเจ้า พวกเจ้าฝ่าฝืนพันธสัญญาที่มีกับเลวี” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “ดังนั้น เราได้ทำให้เจ้าเป็นที่ดูหมิ่นและอับอายต่อหน้าชนชาติทั้งปวง เพราะพวกเจ้าไม่ได้ดำเนินตามทางของเรา แต่กลับแสดงความลำเอียงในการสอนกฎบัญญัติ”

ยูดาห์ไม่เคารพพันธสัญญา

10 พวกเราทุกคนมีพระบิดาองค์เดียวมิใช่หรือ พระเจ้าองค์เดียวเป็นผู้สร้างพวกเรามิใช่หรือ แล้วทำไมพวกเราจึงไม่สัตย์ซื่อต่อกัน ซึ่งเป็นการไม่เคารพพันธสัญญาของบรรพบุรุษของเรา 11 ยูดาห์ไร้ความเชื่อ และได้กระทำสิ่งที่น่ารังเกียจในอิสราเอลและเยรูซาเล็ม เพราะยูดาห์ไม่เคารพสถานที่บริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระองค์รัก และเขาได้แต่งงานกับบุตรสาวของเทพเจ้าต่างชาติ[b] 12 ชายใดก็ตามที่กระทำเช่นนี้ ขอให้พระผู้เป็นเจ้าตัดเขาออกจากกระโจมของยาโคบ แม้เขาจะนำของถวายมามอบแด่พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาก็ตาม

13 มีอีกสิ่งที่พวกท่านทำก็คือ พวกท่านทำแท่นบูชาของพระผู้เป็นเจ้าเปียกโชกด้วยน้ำตา ท่านร้องไห้และโอดครวญเพราะพระองค์ไม่สนใจของถวายจากมือของพวกท่าน หรือรับมันไว้ด้วยความยินดี 14 แต่พวกท่านกลับถามว่า “ทำไมจึงไม่รับ” เพราะพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยานระหว่างท่านกับภรรยาที่ท่านมีตั้งแต่ยังหนุ่ม ซึ่งท่านไม่ซื่อสัตย์ต่อนาง แม้นางจะเป็นทั้งเพื่อนและภรรยาโดยพันธสัญญาก็ตาม 15 พระองค์ไม่ได้ให้เขาทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกันหรือ[c] ทั้งสองเป็นของพระองค์ทั้งฝ่ายกายและวิญญาณ และเหตุใดจึงเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็เพราะพระองค์ต้องการเชื้อสายที่มีความภักดี ฉะนั้นพวกท่านจงระวังตัวด้วยฝ่ายวิญญาณ และอย่าให้คนใดในพวกท่านไม่ซื่อสัตย์ต่อภรรยาที่ท่านมีตั้งแต่ยังหนุ่ม 16 พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวว่า “เราเกลียดการหย่าร้าง และเราเกลียดคนที่คลุมกายด้วยการกระทำผิดดั่งเครื่องนุ่งห่ม” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น ฉะนั้นพวกท่านจงระวังตัวในฝ่ายวิญญาณ และอย่าเป็นคนไม่ซื่อสัตย์

ผู้ส่งข่าวของพระผู้เป็นเจ้า

17 พวกท่านทำให้พระผู้เป็นเจ้าเหนื่อยใจด้วยคำพูดของท่าน และท่านพูดว่า “พวกเราได้ทำให้พระองค์เหนื่อยใจอย่างไร” ก็ด้วยการพูดว่า “ทุกคนที่กระทำความชั่วเป็นคนดีในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ชื่นชอบในพวกเขา” หรือด้วยการที่ท่านถามว่า “พระเจ้าแห่งความยุติธรรมอยู่ไหน”

Footnotes

  1. 2:6 หรือกฎบัญญัติ
  2. 2:11 มีอีกความหมายว่า บุตรสาวที่นมัสการเทพเจ้าต่างชาติ
  3. 2:15 ปฐมกาล 2:24; มัทธิว 19:4,5